ผลการทดสอบตัวอย่างน้ำ กากตะกอน ดิน และถ่านหิน ที่ได้รับทราบจากกรมโรงงาน ฯ จากการลงพื้นที่สุ่มเก็บตัวอย่างไปเมื่อวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา ดังนี้ ผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำผิวดิน ในบริเวณคลองชะลองแวง คลองวังรู และลำรางข้างสวนอุตสาหกรรม พบค่าสารปรอทดีกว่าค่ามาตรฐานถึง 3 เท่า และผลการตรวจสอบคุณภาพดินบริเวณคลองชะลองแวง คลองวังรู และลำรางข้างสวนอุตสาหกรรม รวมถึงถ่านหิน พบค่าสารปรอทดีกว่าค่ามาตรฐาน กว่า 400 เท่า ผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำที่บำบัดแล้วในบ่อพักน้ำสุดท้ายของสวนอุตสาหกรรม 304 พบว่าค่าปรอทดีกว่าค่ามาตรฐาน 6 เท่า ผลการตรวจกากตะกอนดินจากการผลิต พบค่าสารปรอทดีกว่าค่ามาตรฐานถึง 25 เท่า
ทั้งนี้ ผลการทดสอบทั้งหมดโดยกรมโรงงาน ฯ สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับผลการทดสอบที่ดำเนินการโดย เอสจีเอส ซึ่งได้มีการสุ่มตรวจอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมาได้มีการสุ่มตรวจหาสารปรอทในผักตบชวาในคลองชะลองแวงเพิ่มเติม ซึ่งผลการตรวจไม่พบปริมาณสารปรอทในพืชน้ำดังกล่าวเช่นกัน
จากข้อเท็จจริงทั้งหมดแสดงให้เห็นชัดว่า ผลวิเคราะห์จากการสุ่มตรวจในพื้นที่สวนอุตสาหกรรม 304 ดีกว่าค่ามาตรฐานของกระทรวงอุตสาหกรรมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการตรวจวัดค่าปรอทอย่างต่อเนื่อง หรือจากผลการสุ่มตรวจล่าสุด จึงสามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าโรงงานในพื้นที่สวนอุตสาหกรรม 304 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสารปรอทปนเปื้อนต่อชุมชนแน่นอน โดยคาดว่าจะทราบผลการตรวจสอบจากกรมควบคุมมลพิษอีกหน่วยงานหนึ่งในเร็ว ๆ นี้
"ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทาง สวนอุตสาหกรรม 304 รวมถึงโรงงานลูกค้าที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ ก็ได้ให้ความสำคัญต่อการรับผิดชอบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด โดยในปี 2555 ที่ผ่านมา ได้รับการคัดเลือกจากกระทรวงอุตสาหกรรม เป็น 1 ใน 5 โครงการนำร่องในโครงการสวนอุตสาหกรรมเชิงนิเวศเชิงพื้นที่ ซึ่งเป็นโครงการที่จัดทำขึ้นเพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของพื้นที่ ให้เจริญเติบโตไปพร้อมกับการดูแลสภาพแวดล้อมที่ดี ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชน และสิ่งแวดล้อม" นายพูลศักดิ์ กล่าว