สธ.เผยหากไม่เร่งกำจัดยุงลาย ปีนี้อาจมีคนตายจากไข้เลือดออกเกิน 100 ราย

ข่าวทั่วไป Sunday March 3, 2013 13:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รมว.สาธารณสุข(สธ.) คาดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้เลือกออกในอีก 2 เดือนอาจรุนแรงหากไม่เร่งรณรงค์กำจัดยุงลาย โดยคาดปีนี้จำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกอาจพุ่งขึ้นนับแสนราย และเสียชีวิตมากกว่า 100 ราย โดยสถานการณ์ช่วง 2 เดือนแรกปีนี้พบผู้ป่วยมากกว่าปีที่แล้วเกือบ 4 เท่าตัว และเสียชีวิตแล้ว 12 ราย

"เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารหน้าเพื่อระดมความร่วมมือกำจัดยุงลายให้เต็มที่ ก่อนที่โรคนี้จะระบาดมากในหน้าฝน และใช้สมุนไพรที่ยุงเกลียดป้องกันไม่ให้ยุงกัด มั่นใจหากทุกฝ่ายร่วมมือจริงจังจะลดผู้ป่วยลงได้ครึ่งหนึ่ง" นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข กล่าว

ที่ประชุมกระทรวงฯ ได้ประเมินสถานการณ์ว่าในปีนี้จะรุนแรงกว่าปีที่แล้ว คาดจำนวนผู้ป่วยจะมีสูงถึง 120,000-150,000 ราย อาจเสียชีวิตถึง 120-200 ราย และประมาณ 15,000 รายจะนอนโรงพยาบาล จากรายงานจำนวนผู้ป่วยในเดือน ม.ค.-ก.พ.ที่ผ่านมา มีจำนวนรวม 9,824 ราย เฉลี่ยสัปดาห์ละ 800-1,000 ราย สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเกือบ 4 เท่า และมีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคนี้แล้ว 12 ราย มีทั้งนักเรียน ครู แม่บ้าน แม่ค้า และร้อยละ 50 ของผู้ป่วยเป็นนักเรียน ปัญหาดังกล่าวจะเกิดผลกระทบทั้งด้านจิตใจ และภาพลักษณ์ของไทยในสายตาของนานาชาติ

รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ปัญหาหลักที่จะทำให้โรคไข้เลือดออกระบาดหนักคือจำนวนยุงลายที่เพิ่มมากขึ้น ยุทธศาสตร์หลักที่จะจัดการเรื่องนี้ได้สำเร็จคือ การกำจัดลูกน้ำยุงลายในอาคารบ้านเรือน และโรงเรียนทั่วประเทศ ในช่วงต้นปีก่อนที่จะถึงฤดูฝน ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกหน่วยงานทั้งรัฐ เอกชน และประชาชนทุกพื้นที่ ช่วยกันกำจัดลูกน้ำยุงลายทุก 7 วัน ไม่ให้ลูกน้ำมีโอกาสโตเป็นตัวยุง ซึ่งเป็นวิธีที่ทำง่ายที่สุดและได้ผลดีที่สุด และปิดฝาภาชนะเก็บกักน้ำ ป้องกันไม่ให้ยุงลงไปวางไข่ ส่วนยุทธศาสตร์การลดป่วยลดการเสียชีวิตคือ รณรงค์ให้ประชาชนป้องกันตนเองไม่ให้ยุงกัด ซึ่งจะส่งเสริมให้มีการปลูกและใช้สมุนไพรพื้นบ้านที่ยุงลายเกลียด เช่น น้ำมันตะไคร้หอมไว้สำหรับทาป้องกันยุงกัดในครัวเรือน ซึ่งไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม รณรงค์ให้นอนในมุ้ง หรือในห้องที่มีมุ้งลวดทั้งกลางวันและกลางคืน โดยจะนำเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเร็วๆ นี้เพื่อระดมความร่วมมือจากทุกกระทรวงอย่างจริงจังตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป

"ประชาชนจะต้องร่วมมือกันทำลายลูกน้ำยุงลายในบ้านเรือน สถานศึกษา โรงพยาบาล วัด สถานีขนส่ง สถานที่ทำงานทุกแห่ง แหล่งท่องเที่ยวทุกแห่ง รวมทั้งโรงแรม รีสอร์ท หากทุกพื้นที่ช่วยกันกำจัดลูกน้ำอย่างต่อเนื่องทุกเดือนคาดว่าเมื่อถึงฤดูกาลระบาดในหน้าฝน คือประมาณเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ปริมาณยุงลายก็จะมีไม่มาก เมื่อดำเนินการทั้งปีคาดว่าจะลดจำนวนคนป่วยลงได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50" นพ.ประดิษฐ กล่าว

สำหรับการป้องกันการเสียชีวิตหลังป่วยไข้เลือดออก กระทรวงสาธารณสุขได้รวมพลังด้านการรักษาพยาบาล โดยจัดเวชภัณฑ์และเตรียมทีมแพทย์ดูแลรักษาผู้ป่วยไข้เลือดออกให้พร้อมทุกโรงพยาบาล สามารถตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยในเด็กและผู้ใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว หรือส่งผู้ป่วยรักษาต่ออย่างปลอดภัย เตรียมทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้คำปรึกษาแพทย์ที่รักษาตลอด 24 ชั่วโมง และให้คำแนะนำกลุ่มเสี่ยงที่อาจป่วยเป็นไข้เลือดออกให้พบแพทย์เร็วขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่มีไข้สูงลอยติดต่อกัน 2 วันขึ้นไป กินยาลดไข้แล้วไข้ยังไม่ลด หรืออาเจียน รับประทานอาหารและน้ำได้น้อย มีอาการอ่อนเพลียมาก ให้รีบพบแพทย์

ด้าน นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การกำจัดจะต้องล้างขัดภาชนะเพื่อกำจัดไข่ยุงให้หลุดไป ในปีนี้กรมควบคุมโรคได้จัดทำคู่มือกำจัดไข้เลือดออก 5 ล้านฉบับเพื่อแจกประชาชน ขณะนี้มีหมู่บ้านปลอดลูกน้ำยุงลาย 5,000 กว่าแห่ง ตั้งเป้าจะสร้างหมู่บ้านปลอดยุงลายอย่างน้อยให้ได้ตำบลละ 1 หมู่บ้าน และขยายให้เต็มทุกพื้นที่ ซึ่งจะเป็นวิธีพิชิตโรคไข้เลือดออกที่ยั่งยืน


แท็ก สาธารณสุข  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ