โดยเน้นพื้นที่ปลูกทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมหรือไม่มีสภาพป่า และพื้นที่ชายฝั่งทะเลซึ่งสามารถนำมาฟื้นฟู เพื่อป้องกันการพังทลายของหน้าดินและการกัดเซาะของน้ำฝน อีกทั้งที่สำคัญเพื่อเพิ่มศักยภาพการดูดซับน้ำ กักเก็บน้ำ ชะลอการไหลของน้ำ และลดความรุนแรงของกระแสน้ำ รวมถึงบรรเทาภัยพิบัติจากดินโคลน และเป็นกำแพงธรรมชาติ
ทั้งนี้ ที่ประชุม กบอ.ได้อนุมัติแผนปฏิบัติการโครงการปลูกป่าและฟื้นฟูป่าต้นน้ำฯ ระยะเวลา 5 ปี โดยจะมีการปลูกป่าเฉลี่ยปีละ 2 แสนไร่ และใช้งบประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 9 เม.ย.นี้
นายปลอดประสพ กล่าวว่า ที่ประชุม กบอ.ได้จัดตั้งสำนักงานบริหารโครงการปลูกป่า และแต่งตั้งคณะกรรมการที่ดูแลโครงการปลูกป่า โดยคณะกรรมการระดับชาติ มี 2 คณะ คือ คณะกรรมการบริหารและพิจารณากำหนดนโยบายและกรอบแนวทางการดำเนินงาน ที่มีตนเป็นประธาน และคณะกรรมการอำนวยการและกำกับการบริหารโครงการให้มีประสิทธิภาพ ที่มีนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน อีกทั้งมีคณะกรรมการบริหารและดำเนินโครงการฯ ระดับกระทรวง ซึ่งมีกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้รับผิดชอบ รวมถึงมีคณะกรรมการดำเนินโครงการฯ เพื่อติดตามและประเมินผลโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบของจังหวัด
รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าการดำเนินการเรื่องนี้จะไม่ซ้ำซ้อนกับงานของกรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เพราะงานของทั้ง 2 กรมนี้ จะเน้นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมในเขตป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ แต่สำนักงานบริหารโครงการปลูกป่าที่ตั้งขึ้นโดย กบอ.นี้จะเน้นพื้นที่ป่าลุ่มน้ำ พื้นที่ชายฝั่ง และบริเวณปากแม่น้ำ ซึ่งรัฐบาลหวังว่าการทุ่มงบประมาณจำนวนมากเพื่อปลูกป่าครั้งนี้จะมีประสิทธิภาพและทำได้อย่างที่ตั้งใจไว้ อีกทั้งจะทำให้ป่าอยู่ไปยาวนานและเป็นประโยชน์ต่อไป