ก.เกษตรฯ ยืนยันข้าวสารในสต๊อกรัฐไม่มีสารก่อมะเร็ง-ข้าวถุงผ่าน อย.

ข่าวทั่วไป Friday June 21, 2013 17:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนิวัติ สุธีมีชัยกุล รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยืนยันว่า ข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค เพราะสารเคมีที่ใช้รม คือ ฟอสฟีน ซึ่งมีลักษณะเป็นแก๊สได้จากอะลูมิเนียมฟอสไฟด์ หรือแมกนีเซียมฟอสไฟด์ โดยมีอัตราใช้ที่ 2 กรัมของฟอสฟีน ต่อปริมาตร 1 ลูกบาศก์เมตร มีระยะเวลาในการรมยา 5-7 วัน ซึ่งสารนี้เป็นสารที่ใช้กันทั่วไปภายใต้ข้อกำหนดของโคเด็กซ์(CODEX) ในการกำจัดศัตรูพืชและแมลงหลังการเก็บเกี่ยว

สำหรับในประเทศไทยผู้ครอบครองสารนี้จะต้องขออนุญาตจากกรมวิชาการเกษตร และผู้รับจ้างรมยาก็จะต้องผ่านการฝึกอบรมจากกรมวิชาการเกษตรด้วยเช่นกัน ดังนั้นนอกจากจะไม่ใช่สารที่ก่อมะเร็งแต่อย่างใดแล้ว การนำไปใช้ยังอยู่ภายใต้การควบคุมตามระเบียบราชการอีกชั้นหนึ่งด้วย

ทั้งนี้ ความเสี่ยงที่จะเกิดเชื้อราอะฟลาทอกซินในข้าวได้นั้นก็ต้องเป็นกรณีที่มีการละเลย ไม่ดูแล ปล่อยให้ข้าวแช่อยู่ในที่ที่มีความชื้นสูงมากๆ เท่านั้น ซึ่งกรณีดังกล่าวนี้จะมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก และหากใช้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์จะพบว่า เมล็ดข้าวไม่มีน้ำมันและโปรตีนเหมือนถั่ว การเกิดเชื้อราอะฟลาทอกซินจึงมีโอกาสน้อยลงไปอีก นอกจากนี้ข้าวสารที่บรรจุถุงจำหน่ายให้ประชาชนในท้องตลาดจะต้องผ่านกระบวนการคัดแยกจากผู้ปรับปรุงคุณภาพข้าวก่อนการบรรจุ โรงงานบรรจุต้องมีการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ข้าวสารบรรจุถุง ยิ่งต้องมีการเข้มงวดในการตรวจสอบคุณภาพอีกหลายขั้นตอน และในท้ายสุดก็ต้องผ่านการตรวจรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ก่อนการวางจำหน่ายในท้องตลาด

นายนิวัติ กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ลดราคารับจำนำข้าวในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลจากตันละ 15,000 บาท เหลือ 12,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.56 นั้น ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกรชาวนา โดยส่งเสริมการลดต้นทุนการผลิต เช่น การใช้ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพ ร่วมกับการใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ ซึ่งนอกจากจะลดต้นทุนปุ๋ยแล้วยังทำให้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย การส่งเสริมการปลูกพืชชนิดอื่นในช่วงพักการทำนา รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนการปลูกพืชไปเป็นชนิดอื่นที่สอดคล้องกับความเหมาะสมของดินตามประกาศของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้มีการดำเนินการไปแล้วในบางพื้นที่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ