สำหรับบางกรณีซึ่งมีการกล่าวหาว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ เช่น กรณียิงนายมะยาหะลี อาลี ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า นายมะยาหะลีฯ อดีตเป็นกลุ่มแนวร่วม และได้เข้ารายงานตัวอบรมตามโครงการประชา ร่วมใจทำความดีเพื่อแผ่นดิน หลังจากนั้นได้ให้ความร่วมมือ และช่วยเหลือทางราชการด้วยดีเสมอมา จนมาถูกลอบยิงเสียชีวิตดังกล่าว แล้วโยนความผิดว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือ ของเจ้าหน้าที่รัฐ สร้างความหวาดระแวง และหวาดกลัว ซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกับหลายกรณีที่ผ่านมา
และจากกรณีเหตุการณ์ เมื่อ 19 กรกฎาคม 56 เวลา 15.00 น. หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 48 สนธิกำลัง 3 ฝ่าย ได้ติดตามจับกุมคนร้าย จากกรณีลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ชุดสันติสุขมวลชนสัมพันธ์ที่ 404 ในพื้นที่ตำบลมะรือโบออก อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เมื่อ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ผลการสอบสวนพบว่าเป็นการกระทำของ นายมะสุเพียน มามะ เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามจับกุมบุคลดังกล่าว และได้พบ นายมะสุเพียน มามะ ที่บ้านกือลอ หมู่ 3 ตำบลจวบ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส พร้อมกับได้แสดงตน แต่นายมะสุเพียน มามะ ขัดขืนและใช้อาวุธปืนพกยิงใส่เจ้าหน้าที่ เพื่อหลบหนี ทำให้เกิดการปะทะ เป็นเหตุให้ นายมะสุเพียน มามะ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบประวัติของนายมะสุเพียน มามะ พบว่าเป็นบุคคลที่มีหมาย ป.วิอาญา จำนวน 4 หมาย และหมาย พ.ร.ก. จำนวน 1 หมาย กรณีเช่น ร่วมกันก่อเหตุยิงอาสาสมัครรถไฟเสียชีวิต ในพื้นที่ อำเภอเจาะไอร้อง เมื่อ 28 สิงหาคม55 และลอบยิงนางสาวฉัตรสุดา นิลสุวรรณ ครูโรงเรียนบ้านตาโง๊ะ ตำบลมะรือโบออก อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เสียชีวิต เมื่อ 3 ธันวาคม 2555 เป็นต้น
จากกรณีเหตุการณ์ดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจกับญาติของผู้เสียชีวิต และขอชี้แจงว่าการกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ เป็นการปฏิบัติเฉพาะหน้า ตามแผนเผชิญเหตุ โดยได้ยึดถือปฏิบัติภายใต้กรอบของกฎหมาย ตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยจะเร่งรัดมาตรการทางกฎหมายในการพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง และติดตามจับกุม การกระทำความผิดจากกรณีต่างๆ มาลงโทษ ตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
อย่างไรก็ตาม กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงมุ่งหมายในการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ในห้วงรอมฎอนที่ได้กำหนดไว้ ทั้งในเรื่อง การอำนวยความสะดวก การรักษาความปลอดภัย เพื่อให้พี่น้องประชาชนเกิดความเชื่อมั่น และมีความปลอดภัย สามารถประกอบศาสนกิจได้อย่างเต็มที่ และมีความสุข ทั้งนี้ยังคงยึดมั่น และปฏิบัติตามหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยมุ่งเน้นการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ, การเข้าไปจัดการกับปัญหาภัยแทรกซ้อน และปัญหาอื่นๆ ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนส่วนกรณีเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น