สมช.ยันไม่ปรับแผน-เดินหน้าพูดคุยกลุ่มบีอาร์เอ็นต่อ แม้เกิดเหตุรุนแรงถี่

ข่าวทั่วไป Monday August 5, 2013 13:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กล่าวถึงเหตุรุนแรงในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง แม้รัฐจะข้อตกลงกับกลุ่มบีอาร์เอ็น โดยขณะนี้คณะทำงานของ ศอ.บต.ซึ่งทำหน้าที่ดูแลสถานการณ์ในช่วงเดือนรอมฎอนอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน
"ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนรอมฏอนทุกปีที่ผ่านมามักเกิดเหตุรุนแรงบ่อย เพราะเป็นความเชื่อของพวกหัวรุนแรงที่พยายามปฏิบัติการต่อเจ้าหน้าที่หลังปฏิบัติภารกิจรักษาความปลอดภัยให้กับครูในพื้นที่เสร็จสิ้นแล้ว" พล.ท.ภราดร กล่าว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการปรับแผนที่จะลดการปิดล้อมตรวจค้นตามที่ได้รับปากกับกลุ่มบีอาร์เอ็นไว้ แต่ช่วงนี้จะเน้นมาตรการลาดตระเวนอย่างเข้มข้น แต่หากเกิดเหตุการณ์เฉพาะหน้าก็จะมีการปฏิบัติตามกฎหมาย

ส่วนกรณีที่มีข่าวกลุ่มบีอาร์เอ็นออกมาปฏิเสธว่าเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่ใช่ฝีมือของตัวเอง พล.ท.ภราดร กล่าวว่า เบื้องต้นได้ทราบแล้วแต่ต้องรอการรายงานอย่างเป็นทางการผ่านผู้อำนวยความสะดวกมาเลเซียว่าเป็นไปตามนั้นจริงหรือไม่ ถ้าหากระบุว่าไม่ใช่ฝีมือของเขาจะต้องมีการขยายผลต่อไปว่าใครเป็นผู้กระทำ

ส่วนกระแสข่าวที่จะมีการปลดนายฮัดซันตอยิบ ออกจากหัวหน้ากลุ่มบีอาร์เอ็นนั้นไม่เป็นเรื่องจริง พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ตามหลักการต้องได้รับการยืนยันผ่านผู้อำนวยความสะดวก เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงก่อนจึงจะรับในการปฏิบัติได้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันใดๆ ส่วนขั้นตอนที่กลุ่มบีอาร์เอ็นจะไปตรวจสอบว่ากลุ่มใดเป็นผู้ก่อเหตุ จะสามารถส่งมาให้ได้เมื่อไหรนั้น ขณะนี้ทางรัฐไทยมีการส่งข้อมูลไปยังกลุ่มบีอาร์เอ็นและอยู่ระหว่างกระบวนการตอบกลับ ทั้งนี้ยังไม่ยืนยันเรื่องเวลาแต่กลุ่มบีอาร์เอ็นรับปากว่าจะพยายามดำเนินการ

เลขาธิการ สมช.กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมที่จะพูดคุยกับกลุ่มผู้ก่อเหตุทุกกลุ่ม ตามนโยบายที่เปิดกว้างไว้อยู่แล้ว ซึ่งหากกลุ่มบีอาร์เอ็นยืนยันว่าสามารถประสานไปยังกลุ่มเหล่านี้ได้ ทางรัฐบาลก็ไม่อยากจะขัดข้อง แต่หากมีปัญหาก็ต้องพูดคุยว่าจะหาทางออกไปอย่างไร

เลขาธิการ สมช.ยืนยันว่า วันที่ 18 ส.ค.นี้จะประสานไปยังผู้อำนวยความสะดวก เพื่อกำหนดวันในการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น และยังไม่มีแนวโน้มที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายมั่นคงจะเข้าร่วมทีมพูดคุยอย่างที่มีกระแสข่าว และยังไม่มีสัญญาณที่นายกรัฐมนตรีของมาเลเซียจะเข้ามาพูดคุยเรื่องดังกล่าวกับนายกรัฐมนตรีไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ