กรมชลฯ เผยเขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้ำเพิ่ม แต่ยังต่ำกว่า 40%ของความจุอ่าง

ข่าวทั่วไป Tuesday September 10, 2013 16:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ ล่าสุด(10 ก.ย. 56) มีปริมาณน้ำรวมกัน จำนวน 41,296 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 59 ของความจุอ่างฯขนาดใหญ่รวมกันทั้งหมด สามารถรองรับน้ำในช่วงฤดูฝนนี้ได้อีกกว่า 28,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ กรมชลประทาน ยังคงเน้นการบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ ให้สอดคล้องกับสภาวะฝนที่ตกลงมา ควบคู่ไปกับการเก็บกักน้ำให้ได้มากที่สุด เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งหน้าที่จะถึงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ในพื้นที่ภาคเหนือ ยังสามารถรองรับน้ำในช่วงฤดูฝนนี้ได้อีกกว่า 13,000 ล้านลูกบาศก์เมตร อาทิ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล จ.เชียงใหม่ มีปริมาณน้ำ 120 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 45 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 140 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนกิ่วลม จ.ลำปาง มีปริมาณน้ำ 79 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 75 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีก 27 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำ 4,944 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 37 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 8,500ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำ 5,058 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 53 ของความจุอ่างฯสามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 4,400 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำ 497 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 53 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 400 ล้านลูกบาศก์เมตร

ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ต่างๆ เริ่มมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 4,500 ล้านลูกบาศก์เมตร อาทิ เขื่อนห้วยหลวง จ.อุดรธานี มีปริมาณน้ำ 64 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 47 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 70 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร มีปริมาณน้ำ 375 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 72 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 140 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ มีปริมาณน้ำ 657 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 33 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 1,300 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำ 85 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 27 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 200 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนอื่นๆ ยังรับได้รวมกันอีกกว่า 4,000 ล้านลูกบาศก์เมตร

สำหรับในพื้นที่ภาคกลาง ที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำ 213 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 27 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 570 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนกระเสียว จ.สุพรรณบุรี มีปริมาณน้ำ 105 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 44 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 130 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก มีปริมาณน้ำ 150 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 67 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 74 ล้านลูกบาศก์เมตร

อนึ่ง เขื่อนใหญ่ที่สำคัญๆหลายแห่ง มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ หัวใจหลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยา แม้เขื่อนภูมิพลจะมีปริมาณน้ำยังไม่ถึงครึ่งอ่างฯก็ตาม แต่ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและกรมชลประทาน จะร่วมกันติดตามและประเมินผลสถานการณ์เป็นระยะๆ ต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ