ศอ.รส.แถลงชี้แจงกรณีออกหมายเรียกแกนนำ-อายัดบัญชีกปปส.อยู่ในอำนาจDSI

ข่าวทั่วไป Saturday December 21, 2013 11:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะกำกับดูแลศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 23 ธ.คนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ (กกต.) จะเปิดรับสมัครส.ส.และจับหมายเลขแต่ละพรรคการเมืองเพื่อใช้ในการเลืออกตั้งทั่วไปที่จะขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 2 ก.พ. 57 ภายหลังจากที่ได้ยุบสภาเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.

โดยขอเน้นย้ำว่ารัฐบาลนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและข้าราชการทุกคนให้ปฏิบัติหน้าที่ ข้อกฎหมาย ระเบียบต่างๆอย่างเคร่งครัด และรัฐบาลเองก็ได้ยึดมั่นในกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยปี 2550 ซึ่งประชาชนต้องยึดมั่นในตัวบทกฎหมาย เพราะหากไม่ยึดมั่น ก็หมายความว่าบ้านเมืองไม่มีขื่อ ไม่มีแปอีกต่อไป และนานาชาติก็จะขาดความเชื่อมั่น และไม่คบค้าสมาคมกับไทยอีกต่อไป

ดังนั้นการดำเนินการของเจ้าหน้าที่รัฐ ได้ยึดโยงตัวบทกฎหมายภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยปี พ.ศ. 2550 และทุกท่านได้ยึดมั่นในความอดทน แต่ก็ยังมีบุคคลที่พยายามตีความกฎหมายเข้าข้างกลุ่มของตนเอง และพยายามยั่วยุการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐให้ได้รับการจงเกลียดจงชัง โดยกล่าวหาว่าเลือกปฏิบัติ ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน ผมและพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก และ นายชัยเกษม นิติสิริ จึงจำเป็นต้องชี้แจงแนวทางการทำงานของข้าราชการตำรวจและเจ้าหน้าที่ดีเอสไอให้เข้าใจอย่างถ่องแท้

พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รักษาการรองนายกรัฐมนตรี กล่าว่า ตามที่ได้มีพี่น้องประชาชนที่มีความคิดเห็นแตกต่างทางการเมือง และชุมนุมมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งบางส่วนไปบุกรุกกระทรวงการคลัง ศูนย์ราชการ ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอาญามิใช่การชุมนุมที่สงบแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เกิดความรุนแรงและป้องกันสถานที่ไม่ให้เกิดความเสียหาย โดยพยายามอดทน อดกลั้นมาตลอด ในฐานะรองนายกฯ ผู้กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้ชุมนุมโดยสงบ และไปใช้อำนาจอธิปไตย รัฐบาลได้คืนอำนาจให้ปวงชนชาวไทยไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.ที่จะถึงนี้ การพัฒนาทางการเมืองจะทำให้ดีขึ้นได้ หากพี่น้องประชาชนได้ทำตามฉันทามติที่กำหนดไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทนอดกลั้นต่อไป

นายชัยเกษม นิติสิริ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว่า ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินคดีกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และพวก รมว.ยุติธรรมในฐานะผู้ควบคุมและกำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอเรียนชี้แจงว่า การดำเนินคดีกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณของ กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นเรื่องที่มีการร้องทุกข์ ซึ่งกรมฯได้รับเรื่องไว้ดำเนินการ และอธิบดีฯได้แต่งตั้งคณะทำงานสืบสวนเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง เสนอต่อคณะกรรมการคดีพิเศษ ซึ่งคณะกรรมการคดีพิเศษประชุมเมื่อ 17 ธ.ค. 56 พิจารณาให้รับเป็นคดีพิเศษ และให้ดำเนินการสอบสวนร่วมกัน 3 ฝ่าย ต่อมาอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษรายงานว่ามีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งได้ประชุมหารือร่วมกันและมีมติให้เรียกแกนนำมารับทราบข้อกล่าวหา 17 ราย และแจ้งธนาคารทุกแห่งตรวจสอบบัญชีและอายัดบัญชีของนายสุเทพ และพวกรวม 18 ราย โดยเมื่อ 19 ธ.ค. 56 อธิบดีฯได้ออกหมายเรียกและมีหนังสือแจ้งไปยังธนาคาร จากนั้นมีมติให้ออกหมายเรียกแกนนำอีก 20 คน ให้ตรวจสอบบัญชีธนาคาร และอายัดบัญชีเพิ่มเติม

การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามกรอบอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ส่วนการอายัดบัญชีก็เป็นไปตามกรอบที่ให้อำนาจกรมสอบสวนคดีพิเศษสามารถทำได้ จึงขอทำความเข้าใจร่วมกันว่าการชุมนุมหากเป็นไปโดยสงบก็เป็นสิ่งที่ทำได้ แต่หากการชุมนุมที่มีการยุยงให้ละเมิดกฎหมายแผ่นดิน การนำพาบุคคลไปปิดล้อม บุกยึดสถานที่ราชการ และมีพฤติการณ์ทำผิดต่อเนื่อง เมื่อคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษแล้วกรมสอบสวนคดีพิเศษก็มีหน้าที่ดำเนินคดีต่อไป ขอยืนยันว่าจะดำเนินการโดยความยุติธรรม รัดกุม รอบคอบ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ