นายกฯ ระบุหลักปฏิบัติตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เน้นขั้นตอน กม.มากกว่าใช้กำลัง

ข่าวทั่วไป Thursday January 23, 2014 16:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า การบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่ได้เป็นการท้าทายกลุ่มแกนนำผู้ชุมนุมกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) และไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เหมือนปี 2553 เน้นให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฏหมายเป็นหลักมากกว่าที่จะใช้กำลัง
"ไม่ได้ออกพ.ร.ก.เพื่อท้าทายอะไรเลย แต่เป็นเครื่องมือของเจ้าหน้าที่ในการดำเนินงาน เรายืนยันไม่อยากเห็นภาพเหมือนอย่างเหตุการณ์ปี 53 จึงได้ย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนระมัดระวังอย่าใช้เกินสิ่งที่จำเป็น ขอให้ใช้ขั้นตอนการเจรจาพูดคุยเรายังคงพยายามรักษาตรงนี้ไว้เหมือนเดิม และใช้กฎหมายเป็นหลัก"น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว

สำหรับการประชุมสภากลาโหมครั้งแรกของปี 57 ในวันนี้ ถือเป็นการประชุมตามวาระปกติ รายงานความคืบหน้าสถานการณ์ต่างๆ ทั้งนี้เบื้องต้นได้ชี้แจงผู้บัญชาการเหล่าทัพ ถึงการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อเป็นเครื่องมือให้กับเจ้าหน้าที่ในการปฎิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย จึงเป็นที่มาของการเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบให้หน่วยงานที่เป็นหัวหนัปฎิบัติอยู่ในการดูแลของพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เนื่องจากต้องการเน้นการปฏิบัติขั้นตอนตามกฎหมายมากกว่าจะใช้กำลัง

"เราได้บูรณาการกำลังทางทหารเข้ามาเหมือนเดิม ซึ่งได้ขอความร่วมมือเหล่าทัพเรื่องการเตรียมหน่วยแพทย์พยาบาลต่างๆ และการดูแล รวมถึงการตั้งจุดตรวจร่วม เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ครม.ได้เน้นย้ำให้หัวหน้าฝ่ายปฎิบัติงานของศูนย์รักษาความสงบให้ปฎิบัติหน้าที่ด้วยความละมุนละม่อม และขั้นตอนต่างๆ ขอให้ยึดหลักตามขั้นตอนของกฎหมาย อย่าให้ลุเกินแก่อำนาจหรือเกินขอบเขต"น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว

ทั้งนี้ ในส่วนกองทัพก็จะให้ความร่วมมือเรื่องกำลังพลกับรัฐบาลตามที่ ศรส.ร้องขอ ซึ่งเป็นขั้นตอนเดียวกับการทำงานของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) พร้อมทั้งย้ำให้เหล่าทัพให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ตามที่กกต.ร้องขอ รวมถึงการดูแลเรื่องความปลอดภัยให้กับประชาชนโดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้

ส่วนกรณีที่แกนนำกปปส.ประกาศไล่ล่านายกรัฐมนตรีและรมต.อีกหลายคนนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล การละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนอื่นต้องมีการขออนุญาต และเชื่อว่าไม่มีใครอยากเห็นการไล่ล่าประกาศจับเป็นรายวัน ซึ่งอยากจะขอร้องให้พยายามช่วยกันหลีกเลี่ยงการพูดจาให้เกิดความเกียจชังและความขัดแย้งอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พูดไว้ว่าเราจะโกรธจะเกลียดจะแรงกันไปถึงไหน วันนี้น่าจะถึงเวลาแล้วที่ไปพูดคุยกัน รัฐบาลก็พร้อมเปิดเวทีทุกประตูทุกเวลาในการที่จะพูดคุย

"หลายคนถ้าเป็นใครก็คงไม่อยากได้ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ก็ต้องขอเรื่องสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลเถอะคะ และไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนไหนที่จะเจอขนาดนี้ ดิฉันเองยอมรับว่าเราเองก็อดทน ขอความเห็นใจจากผู้ชุมนุม ดิฉันพร้อมที่จะรับฟัง บางอย่างก็ต้องขอความเห็นใจ ถ้าปฎิบัติได้เราก็ยินดีให้ความร่วมมือ วันนี้เราได้คืนอำนาจให้กับประชาชนแล้วในการยุบสภา ซึ่งสิ่งที่พูดที่ร้องขอมานั้นเป็นส่วนที่ปฎิบัติไม่ได้ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ต้องขอเรียนย้ำดิฉันเองไม่ใช่คนที่จะดื้อรั้นไม่ฟังอะไรเลย แต่บางอย่างมันปฎิบัติไม่ได้ก็ต้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาช่วยกันพูดคุย อันนี้น่าจะเป็นหนทางออกของเรา" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ