นอกจากนี้ ได้ติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว และมีแผนติดตั้งเพิ่มอีก 2 เครื่อง โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจัดซื้อเครื่องจากการท่าอากาศยานฯ ทั้งนี้ ให้กรมควบคุมโรค ติดตามประเมินสถานการณ์กับองค์การอนามัยโลกอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดำเนินการของไทยสอดคล้องกับสถานการณ์โลก
ที่ประชุมยังสั่งการผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะใน 5 เขตที่ดูแลจังหวัดที่มีท่าอากาศยานนานาชาติ 5 แห่งและท่าเรือ 17 แห่ง รวม 15 จังหวัด ให้ดำเนินการใน 3 เรื่อง คือ 1.ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่ง ดำเนินการเฝ้าระวังผู้เดินทางจากต่างประเทศ ทั้งที่ช่องทางเข้าออกประเทศ ที่โรงพยาบาล และในชุมชน ตามแนวทางที่กำหนด สำหรับผู้เดินทางมาทางเครื่องบิน ได้มอบให้กรมควบคุมโรคประสานสายการบินที่มาจากประเทศที่มีการระบาด ให้ประกาศแจ้งผู้โดยสารไปรายงานตัวที่จุดคัดกรองที่ท่าอากาศยาน
2.เตรียมความพร้อมของโรงพยาบาลศูนย์ 28 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้การดูแลหากพบผู้ป่วยสงสัยโรคอีโบลา โดยเน้นความพร้อมของห้องแยกโรคและห้องปฏิบัติการชันสูตร และ3.เตรียมโรงพยาบาลชุมชนให้พร้อมกรณีที่อาจต้องดูแลผู้ที่สัมผัสกับผู้ป่วยสงสัยอีโบลา ซึ่งจะได้รับการแยกตัวเพื่อการสังเกตอาการ 21 วัน ตามมาตรฐาน พร้อมทั้งการสื่อสาร สร้างความเข้าใจกับผู้ที่แยกตัวไว้สังเกตอาการและญาติ เพื่อลดความวิตกกังวล
สำหรับการระบาดใน 4 ประเทศอาฟริกาตะวันตกยังมีแนวโน้มพบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศไลบีเรียซึ่งพบผู้ป่วยในทุกจังหวัด องค์การอนามัยโลกรายงานเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2557 มีผู้ป่วย 3,069 ราย เสียชีวิต 1,552 ราย ในประเทศกินี เซียร์ร่าลีโอน ไลบีเรีย และไนจีเรีย นอกจากนี้ มีรายงานพบผู้ป่วยรายแรกที่ประเทศเซเนกัล เป็นนักศึกษาชาวกินี รักษาตัวอยู่ที่เมืองหลวงของประเทศเซเนกัล ส่วนการระบาดของโรคอีโบลาที่ประเทศดีอาร์ คองโก ไม่เกี่ยวข้องกับการระบาดใน 4 ประเทศอาฟริกาด้านตะวันตก โดยองค์การอนามัยโลกได้จัดทำแผนกลยุทธ์ ตั้งเป้าหมายยุติการระบาดของโรคอีโบลาให้ได้ภายใน 6-9 เดือน