"ต้องหา (ผู้กระทำผิด) การปลอมแปลงเอกสารมา พวกนี้ต้องใช้เวลาในการตามและปล่อยมาบ่อยครั้ง พวกนี้มันแย่ จิตใจใช้ไม่ได้ ผมคิดว่าคนไทยทั้งประเทศรับไม่ได้และอย่าไปเชื่ออะไรผลีผลาม"นายกฯ กล่าว
ส่วนกรณีเหตุระเบิดบริเวณห้างสยามพารากอนนั้น นายกฯ ได้สั่งการให้คสช.ดำเนินการอย่างเต็มที่ในการวางมาตรการป้องกันการก่อเหตุอาชญากรรมและกระทำผิดกฏหมาย รวมถึงเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ ในการรักษาความปลอดภัยให้ประชาชนมากขึ้นในทุกพื้นที่
พร้อมทั้งได้ปฏิเสธว่า รัฐบาลและคสช.ไม่ได้เป็นคนสร้างสถานการณ์เองเพื่อหวังคงกฎอัยการศึก ตามที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และไม่ใช่เรื่องการแย่งชิงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ แต่หากพบว่า มีอดีตตำรวจหรือทหารมีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องมีดำเนินการลงโทษ ซึ่งส่วนตัวรู้สึกเป็นห่วงคนไทยและขอให้ช่วยกันลดความรุนแรง
"มีคนวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลทำเอง คสช.ทำเอง เพื่อให้ต่อกฏอัยการศึกไว้ พวกนี้สมองเสีย เขียนแบบนี้ได้อย่างไรไม่มีใครลงทุนขนาดนั้น และที่บอกว่าเป็นเรื่องการแย่งชิงจ่าฝูงกองทัพบก กองทัพบกปรับตอนเดือนตุลาคม ไม่มีปรับย้ายอยู่แล้ว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พร้อมกันนี้ได้ขอความร่วมมือสื่อมวลชนอย่าไปให้ความสำคัญ แต่จะต้องช่วยกันเฝ้าระวังช่วยกันแจ้งเหตุและควรตำหนิผู้ก่อความรุนแรง ไม่ใช่ตำหนิรัฐบาลที่พยายามดูแลความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่างชาติมีความเข้าใจดี ส่วนกรณีสหรัฐฯ มีการแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาประเทศไทยให้ระมัดระวังว่าจะเกิดเหตุก่อการร้ายขึ้นนั้น นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ได้ชี้แจงทำความเข้าใจแล้วจึงไม่ขอตอบโต้ เพราะวันหน้าก็ต้องมีการติดต่อความสัมพันธ์ด้านต่างๆอยู่แล้ว และทุกประเทศก็มีโอกาสเกิดเหตุลักษณะนี้ได้
ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักพระราชวังได้ประสานโดยตรงมายัง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เร่งตรวจสอบหาที่มาของแถลงการณ์ปลอมโดยเร็วที่สุด เบื้องต้นพบว่ามีต้นทางมาจากต่างประเทศ และยอมรับว่าการตรวจสอบติดตามจับกุมผู้ที่เผยแพร่ทำได้ยากขึ้น โดยขณะนี้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มีการประชุมเพื่อวิเคราะห์เจตนาการเผยแพร่แถลงการณ์ดังกล่าว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด และยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นกลุ่มหรือบุคคลใด