กรมควบคุมโรค เล็งนำวัคซีน HPV-โปลิโอแบบฉีดให้บริการเด็กไทย ลดความสูญเสีย

ข่าวทั่วไป Monday February 23, 2015 16:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคเห็นชอบให้นำวัคซีนชนิดใหม่มาใช้ในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค 2 ชนิด คือ วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (วัคซีนเอชพีวี) และวัคซีนโปลิโอชนิดฉีด ซึ่งวัคซีนเอชพีวีเป็นวัคซีนที่คณะอนุกรรมการฯ เห็นว่าควรนำมาใช้ในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโดยเร็ว เนื่องจากเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง และเป็นเครื่องมือสำคัญร่วมกับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในการลดปัญหามะเร็งปากมดลูกในหญิงไทย ซึ่งเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ
"กรมควบคุมโรคได้เริ่มให้บริการวัคซีนเอชพีวีแก่นักเรียนหญิง ชั้น ป.5 ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่ปี 57พบว่า ผู้ปกครอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและครู ให้ความยอมรับวัคซีนป้องกันเอชพีวีเป็นอย่างดี ความครอบคลุมการได้รับวัคซีนสูงกว่าร้อยละ 90 อีกทั้งยังไม่มีรายงานอาการภายหลังวัคซีนที่รุนแรง นอกจากนี้ ยังไม่พบว่าการให้วัคซีนดังกล่าวก่อให้เกิดผลกระทบต่อให้บริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในพื้นที่อีกด้วย"นพ.โสภณ กล่าว

อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมการฯ เห็นว่ารัฐบาลควรเร่งรัดจัดสรรงบประมาณและต่อรองราคาเพื่อให้เด็กไทยมีโอกาสได้รับวัคซีนป้องกันเอชพีวี เพื่อลดปัญหามะเร็งปากมดลูกในอนาคต ซึ่งในปัจจุบันมะเร็งปากมดลูกได้คร่าชีวิตผู้หญิงไทยมากถึงปีละประมาณ 5,000 ราย และมีผู้ป่วยรายใหม่ปีละกว่า 10,000 ราย

ส่วนวัคซีนโปลิโอชนิดฉีดนั้น ประเทศไทยมีพันธะสัญญาร่วมกับนานาประเทศในการร่วมกันกวาดล้างโรคโปลิโอให้หมดไปจากโลก และแม้ว่าในปัจจุบันจะไม่พบผู้ป่วยโปลิโอในประเทศไทยมานานกว่า 17 ปีแล้ว การนำวัคซีนโปลิโอชนิดฉีดมาใช้ร่วมกับวัคซีนโปลิโอชนิดรับประทาน ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยจะก้าวสู่ความสำเร็จอีกขั้นหนึ่งในการกวาดล้างโปลิโอร่วมกับประเทศต่างๆ ทั่วโลก และจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กไทยปลอดภัยจากเชื้อโปลิโอที่อาจนำเข้ามาจากประเทศที่ยังมีการระบาด

"คณะอนุกรรมการฯ มีข้อแนะนำว่าควรให้บริการวัคซีนโปลิโอชนิดฉีด จำนวนสองเข็ม เมื่อเด็กอายุ 2 และ 4 เดือน แล้วใช้วัคซีนโปลิโอชนิดรับประทานต่อจนครบ โดยควรเริ่มให้บริการดังกล่าวภายใน พ.ศ. 2558 เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการดำเนินการกำจัดกวาดล้างโรคโปลิโอในระดับนานาชาติ ตามข้อแนะนำขององค์การอนามัยโลก"นพ.โสภณ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ