กรมชลฯ เผยแล้งนี้ระยอง-ชลบุรีมีปริมาณน้ำพอใช้ ไม่ขาดแคลน

ข่าวทั่วไป Thursday March 12, 2015 15:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งเป็นแหล่งอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยวที่สร้างรายได้หลักแห่งหนึ่งของประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรีและระยอง พบว่า ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี มีแหล่งน้ำต้นทุนจากเขื่อน 7 แห่ง คือ เขื่อนบางพระ เขื่อนหนองค้อ เขื่อนมาบประชัน เขื่อนซากนอก เขื่อนหนองกลางดง เขื่อนห้วยละหาน และเขื่อนห้วยขุนจิต ปัจจุบัน(12 มี.ค. 58)มีปริมาณน้ำในอ่างฯรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 75 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นปริมาณน้ำที่ใช้การได้ ประมาณ 60 ล้านลูกบาศก์เมตร ในขณะที่ความต้องการใช้น้ำในทุกภาคส่วน รวมกันประมาณวันละ 390,000 ลูกบาศก์เมตร คาดว่าเมื่อสิ้นสุดฤดูแล้งในเดือนเมษายนนี้ จะมีปริมาณน้ำคงเหลือประมาณ 40.50 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำที่มีอยู่นี้ จึงทำให้ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จะไม่ประสบกับปัญหาการขาดแคลนน้ำ

ส่วนในพื้นที่จังหวัดระยอง มีลุ่มน้ำหลัก 2 ลุ่มน้ำ คือ ลุ่มน้ำระยอง และลุ่มน้ำประแสร์ โดยลุ่มน้ำระยอง ถือได้ว่าเป็นลุ่มน้ำขนาดใหญ่ที่สำคัญ ใช้น้ำจากแหล่งน้ำต้นทุน 3 แห่ง ได้แก่ เขื่อนหนองปลาไหล เขื่อนดอกกราย และเขื่อนคลองใหญ่ ทำหน้าที่ส่งน้ำสนับสนุนพื้นที่เกษตรกรรม อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยวเกือบทั้งหมดของจังหวัด ซึ่งกรมชลประทานได้เสริมศักยภาพและเพิ่มความมั่นคงด้านการจัดการน้ำ ด้วยการสูบน้ำจากเขื่อนประแสร์ ในลุ่มน้ำประแสร์ มาเพิ่มเติมให้กับลุ่มน้ำระยอง ส่งผลให้ปัจจุบันในลุ่มน้ำระยองมีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน 160 ล้านลูกบาศก์เมตร ในขณะที่ความต้องการใช้น้ำในทุกภาคส่วน ประมาณวันละ 1,000,000 ลูกบาศก์เมตร คาดว่าเมื่อสิ้นสุดฤดูแล้งในเดือนเมษายนนี้ จะมีปริมาณน้ำคงเหลือประมาณ 110 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำที่มีอยู่นี้ จึงทำให้ในพื้นที่จังหวัดระยอง จะไม่ประสบกับปัญหาการขาดแคลนน้ำเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดเสถียรภาพและความมั่นคงในการใช้น้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก กรมชลประทาน ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ร่วมมือกันใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาการขาดแคลนน้ำในอนาคตด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ