พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ภัยพิบัติของประเทศไทย มีแนวโน้มเกิดบ่อยครั้ง รุนแรง และส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศในทุกมิติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบการจัดการสาธารณภัยของประเทศที่มีประสิทธิภาพ โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2558 ได้เห็นชอบแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 ซึ่งสอดรับกับแนวคิดการจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัยในระดับสากล และกรอบการดำเนินงานเซนไดเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ พ.ศ.2558 – 2573 ที่นายกรัฐมนตรีได้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยประกาศเจตนารมณ์ในการร่วมขับเคลื่อนกรอบการดำเนินงานดังกล่าว โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนฯ และจัดทำแผนปฏิบัติการรองรับการขับเคลื่อนในแผนปฏิบัติราชการประจำปี รวมถึงให้สำนักงบประมาณและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดสรรงบประมาณสำหรับดำเนินการจัดการสาธารณภัยตามแผนฯ
ทั้งนี้ แผน ปภ.ชาติ 58 ถือเป็นแผนฉบับใหม่ ที่นำบทเรียนการจัดการสาธารณภัยในอดีตมาพัฒนาแนวทางการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสภาพความเสี่ยงภัย บริบททางสังคม และสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม ครอบคลุมทุกมิติ ซึ่งมุ่งเน้นการลดความเสี่ยงจากสาธารณภัย การบูรณาการการจัดการในภาวะฉุกเฉินการเพิ่มประสิทธิภาพการฟื้นฟู ควบคู่กับการส่งเสริมความร่วมมือในการจัดการสาธารณภัยระหว่างประเทศ เพื่อนำไปสู่การสร้างให้ประเทศไทย “รู้รับ – ปรับตัว – ฟื้นเร็วทั่ว – อย่างยั่งยืน"