(เพิ่มเติม) รัฐเล็งส่งน้ำช่วยพื้นที่นาข้าวตั้งท้อง 1.36 ล้านไร่ก่อน เริ่มพรุ่งนี้ หลังน้ำในเขื่อนเพิ่ม

ข่าวทั่วไป Tuesday July 21, 2015 18:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้รายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีถึงสถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักในลุ่มเจ้าพระยาที่เริ่มมีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น และสามารถนำน้ำมาช่วยเหลือภาคเกษตรได้แล้ว ดังนั้นจะได้จัดลำดับความสำคัญของพื้นที่ให้การช่วยเหลือตามความจำเป็นเร่งด่วนต่างกันไป

โดยพื้นที่ที่จะได้รับความช่วยเหลือเรื่องน้ำเพื่อการเกษตรก่อนลำดับแรก คือ พื้นที่นาที่ข้าวในลุ่มเจ้าพระยาที่กำลังตั้งท้องหรือมีอายุมากกว่า 8 สัปดาห์ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 1.36 ล้านไร่ ถัดมาคือ พื้นที่นาที่ข้าวมีอายุมากกว่า 6 สัปดาห์ แต่ไม่ถึง 8 สัปดาห์ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 1.25 ล้านไร่ โดยพื้นที่นี้มีโอกาสที่ข้าวจะรอดถ้าฝนมาตามฤดูกาล และสุดท้ายคือ พื้นที่นาข้าวที่มีอายุไม่ถึง 6 สัปดาห์ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 1.7 แสนไร่

รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า การจัดสรรน้ำเพื่อลงไปช่วยเหลือพื้นที่นาข้าวในลุ่มเจ้าพระยานั้นจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่พรุ่งนี้(22 ก.ค.) เป็นต้นไป โดยจะมีการกำหนดรายละเอียดของรอบการส่งน้ำเข้าไปยังพื้นที่เป้าหมายแต่ละแห่ง ทั้งนี้ต้องขอความร่วมมือประชาชนที่อยู่ในระหว่างทางส่งน้ำว่าอย่าเพิ่งสูบน้ำไปใช้ก่อน เพื่อจะให้น้ำได้ไปสู่พื้นที่เป้าหมายที่แท้จริง และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผลผลิตข้าวในพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนก่อน

ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาหาแนวทางในการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรที่ไม่สามารถทำการเกษตรได้อันเนื่องจากปัญหาภัยแล้ง ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจะใช้งบประมาณในส่วนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ที่แต่ละจังหวัดมีอยู่ 10 ล้านบาท ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางไปใช้เพื่อการสร้างงาน แต่ทั้งนี้ขอให้กระทรวงมหาดไทยไปทำข้อตกลงกับกระทรวงการคลังก่อนว่าจะมีกิจกรรมใดบ้างที่ต้องใช้การจ้างงาน และมีความจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ยอมรับว่ามีความหนักใจเรื่องการทำความเข้าใจกับประชาชนทั่วไปส่วนหนึ่ง และอีกส่วนเป็นเรื่องการทำความเข้าใจกับสื่อ เนื่องจากมีสื่อบางฉบับพาดหัวว่า "เอาปืนจ่อหัวผู้สูบน้ำ" ซึ่งความเป็นจริงไม่มีเรื่องลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะทหารที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่ก็คือลูกหลานของประชาชนในพื้นที่นั้นๆ และมีความจำเป็นต้องทำตามหน้าที่

อย่างไรก็ดี เชื่อว่าสถานการณ์ในภาพรวมจะเริ่มคลี่คลายในเร็ววันนี้ จากเรื่องการทำฝนหลวง และธรรมชาติก็จะช่วยโอกาสอันใกล้นี้ ดังนั้นในระหว่างนี้จำเป็นต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน ซึ่งวันนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในที่ประชุม ครม.ให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องดูแลช่วยเหลือจ้างงาน และฟื้นฟูเยียวยาความเสียหายให้แก่เกษตรที่ได้รับความเดือนร้อน

"ในส่วนของพื้นที่ที่ทหารลงไปปฏิบัติหน้าที่เริ่มคลี่คลายแล้ว ในบางพื้นที่ก็จะมาดูร่วมกับฝ่ายปกครองว่าพื้นที่ที่จะอนุโลมโดยลำดับนั้นมีพื้นที่ใดบ้าง คลองส่งน้ำใดจะอนุญาตให้มีการปล่อยน้ำไปเพื่อการเกษตร ซึ่งวันพรุ่งนี้ จะมีการหารือกันในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำฯ และจะได้เร่งดำเนินการต่อไป" รมช.กลาโหม

สำหรับปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำเพื่อการบริโภคนั้น นายกรัฐมนตรีได้สั่งการแล้วว่าหน่วยงานใดที่มีขีดความสามารถ หรือภาคเอกชนใดที่สามารถช่วยเหลือในการนำน้ำดื่มไปช่วยเหลือในพื้นที่ที่ขาดแคลนก็ให้ร่วมกันนำมาบริจาคได้ ซึ่งวันพรุ่งนี้กองทัพบกจะเริ่มนำน้ำดื่มทั้งในส่วนของกองทัพและที่ได้รับบริจาคออกไปช่วยเหลือตามจุดต่างๆ ขณะที่การขุดลอกคูคลองตามแผนบริหารจัดการน้ำ ได้มีการดำเนินการไปแล้วในหลายพื้นที่ นอกจากนี้จะได้ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ในการจัดโครงการธงฟ้าเคลื่อนที่ไปตามพื้นที่ต่างๆ ที่ได้รับความเดือดร้อน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ