มท.1 กำชับกรมป้องกันฯ ปรับมาตรการรับมือภัยพิบัติให้สอดคล้องแต่ละพื้นที่

ข่าวทั่วไป Monday August 3, 2015 12:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นห่วงประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้และร่องมรสุมพาดผ่าน อาจทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจึงได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยเฝ้าระวัง ติดตาม และประเมินสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแจ้งเตือนภัย แก่ประชาชนได้ทันทีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมเผชิญเหตุ และช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย กรณีสถานการณ์รุนแรงได้เน้นย้ำให้จังหวัดดำเนินการตามขั้นตอนของแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพื่อประสานการช่วยเหลือและอพยพผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที

ทั้งนี้ ได้กำชับให้จังหวัดวางแนวทางการรับมือและจัดการภัยพิบัติเชิงรุกอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องในทุกมิติ รวมถึงปรับแผนงานให้มีความยืดหยุ่นและสอดคล้องกับสภาพความเสี่ยงภัยในแต่ละพื้นที่ ตลอดจนให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงทุกภาคส่วนในการบูรณาการช่วยเหลือประชาชนให้ปลอดภัยจากภัยพิบัติ

อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้หลายพื้นที่จะมีฝนตก แต่น้ำที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำยังมีปริมาณไม่มากพอ จำเป็นต้องสำรองน้ำเพิ่ม จึงได้กำชับให้จังหวัดยังคงดำเนินมาตรการประหยัดน้ำอย่างต่อเนื่อง และขอความร่วมมือทุกภาคส่วนวางแผนการใช้น้ำให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสด เพื่อให้มี น้ำอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอในทุกฤดูกาล และเกิดความมั่นคงด้านน้ำในระยะยาวของประเทศ

ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า กรมป้องกันฯ ได้บูรณาการจังหวัดเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติอย่างเข้มข้น ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการวางมาตรการป้องกันอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม การแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนแล้ง และฝนทิ้งช่วง พร้อมปรับมาตรการ แผนงานรับมือและจัดการภัยพิบัติให้สอดคล้องกับสภาพความเสี่ยงภัยในแต่ละพื้นที่ โดยมุ่งเน้นการเฝ้าระวัง แจ้งเตือนภัยที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการเผชิญเหตุ และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลด้านความปลอดภัยจากภัยพิบัติจากภาครัฐอย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และครอบคลุมทุกพื้นที่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ