พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวในระหว่างเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี โดยย้ำว่ารัฐบาลมีความเป็นห่วงสถานการณ์ภัยพิบัติในหลายพื้นที่ที่มีทั้งปัญหาภัยแล้ง และอุทกภัย ซึ่งพื้นที่ที่เป็นห่วงอันดับแรก คือ พื้นที่ภาคกลาง ในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยาและป่าสัก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มักประสบปัญหาภัยพิบัติโดยตลอด
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีรู้สึกพอใจหลังจากได้รับรายงานจากผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าหน้าที่ประจำเขื่อนว่าในช่วงที่มีฝนตกในพื้นที่ ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนมากกว่า 2 ล้าน ลบ.เมตร/วัน ซึ่งทำให้สามารถระบายน้ำออกจากเขื่อนได้วันละ 1 ล้าน ลบ.เมตร เพื่อรักษาระบบนิเวศน์ของพื้นที่ท้ายเขื่อนด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการมาร่วมงานวันพระราชทานกำเนิดโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ครบรอบ 128 ปี ที่ จ.นครนายก ซึ่งภายหลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนขุนด่านปราการชล โดยเป็นกำหนดการที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า เนื่องจากต้องการเห็นสภาพที่แท้จริงและไม่ต้องการให้มีการจัดคณะมาให้การต้อนรับ