สาธารณสุข เปิดวอร์รูมเป็นศูนย์กลางข้อมูลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเหตุระเบิดราชประสงค์

ข่าวทั่วไป Wednesday August 19, 2015 12:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รมช.สาธารณสุข พร้อมด้วยนพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข (วอร์รูม) กรณีเหตุระเบิดราชประสงค์ และคณะ แถลงความคืบหน้าการดูแลผู้บาดเจ็บว่า รมว.สาธารณสุข ได้มอบหมายให้เปิดวอร์รูมกรณีเหตุระเบิดราชประสงค์เพื่อดำเนินการดังนี้

1.เป็นศูนย์กลางข้อมูลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ และนำขึ้นเว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข www.moph.go.th 2.เปิดสายด่วน 02-5901994 ตลอด 24 ชั่วโมง อำนวยความสะดวกแก่ญาติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสอบถามข้อมูลต่างๆ 3.ประสานการส่งศพและพิสูจน์อัตลักษณ์ศพ รวมทั้งส่งศพกลับภูมิลำเนา

4.กระทรวงสาธารณสุข ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้รับผิดชอบด้านการรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บทั้งหมด โดยรัฐบาลไทยจะรับดูแลค่าใช้จ่าย ด้านค่ารักษาพยาบาลของผู้บาดเจ็บที่พักรักษาตัว ทั้งในโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชนตามความเหมาะสม รวมถึงค่าใช้จ่ายในการจัดการศพผู้เสียชีวิตตามระเบียบที่มีอยู่ 5.กระทรวงสาธารณสุข ได้กำชับให้ทุกโรงพยาบาลดูแลผู้บาดเจ็บให้ดีที่สุด โดยประสานกับทุกโรงพยาบาลที่มีผู้บาดเจ็บเข้ารักษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 6.ประสานกระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในการดูแลเยียวยาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้กรมสุขภาพจิต ส่งทีมสุขภาพจิตดูแลจิตใจผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ แบ่งเป็น 3 กลุ่มได้แก่ กลุ่มญาติผู้เสียชีวิตคนไทยและส่งศพกลับภูมิลำเนา ได้ส่งทีมสุขภาพจิตในพื้นที่ติดตามดูแลถึงบ้านเพื่อประเมินประเมินจิตใจเบื้องต้นและวางแผนดูแลต่อเนื่อง 2.ผู้บาดเจ็บและญาติ ทีมสุขภาพจิตจะประเมินจิตใจและวางแผนดูแลตั้งแต่ต้นควบคู่กับการรักษาพยาบาล และ3.กรณีชาวต่างชาติที่บาดเจ็บและเสียชีวิต จะให้การดูแลร่วมกับทีมสุขภาพจิตของโรงพยาบาลที่รักษา ทั้งรัฐและเอกชนอย่างเต็มที่จนกระทั่งเดินทางกลับประเทศ

ข้อมูลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากศูนย์เอราวัณ กทม.(วันที่ 18 สิงหาคม 2558 เวลา 19.00 น.) ผู้เสียชีวิต 20 ราย เป็นชาวต่างชาติ 7 ราย เป็นชาวไทย 7 ราย ไม่ทราบสัญชาติ 6 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 123 ราย เป็นชาวต่างชาติ 55 ราย ชาวไทย 68 ราย ยังนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 68 ราย ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง โดยมีผู้บาดเจ็บสาหัสอยู่ในไอซียู 12 ราย เป็นชาวต่างชาติ 7 ราย ชาวไทย 5 ราย จากถูกไฟไหม้ตามร่างกาย ถูกสะเก็ดระเบิดหลายอวัยวะ เช่นช่องท้อง ปอด และกระดูกหักรุนแรง จะต้องให้การรักษาอย่างใกล้ชิด

ด้าน นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย กล่าวว่า สำหรับผู้เสียชีวิต 6 ราย ที่ยังไม่ทราบสัญชาติ ขณะนี้สถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยอาจจะใช้กระบวนการพิสูจน์จากฟัน ดีเอ็นเอ ควบคู่กับการติดตามของญาติ ซึ่งเรื่องนี้ประเทศไทยมีประสบการณ์จากเหตุการณ์สึนามิมาแล้ว

ส่วนการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ กระทรวงสาธารณสุข จะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือกระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงพัฒนาสังคมฯ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบที่มีอยู่ ซึ่งจะมีการประชุมร่วมกัน ในเบื้องต้นได้ขอความร่วมมือโรงพยาบาลที่ดูแลรักษาผู้ป่วยทุกแห่ง ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ญาติในการประสานงานเรื่องต่างๆ เพื่อช่วยลดข้อกังวลให้ได้มากที่สุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ