ด้านนพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า อาการของโรคไข้เลือดออก ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงอย่างเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หน้าแดง มีจุดเลือดที่ผิวหนัง มักจะไม่ไอ ไม่มีน้ำมูกเหมือนไข้หวัด โรคนี้ไม่มียารักษาเฉพาะต้องรักษาตามอาการ คือ เช็ดตัวลดความร้อน ให้ยาลดไข้ พาราเซตามอล ห้ามซื้อยาประเภทแอสไพรินหรือไอบูโปรเฟน มากินเองอย่างเด็ดขาด เนื่องจากยาทั้ง 2 ชนิดนี้มีฤทธิ์ระคายเคืองกระเพาะอาหาร อาจทำให้เลือดออกได้ง่ายขึ้น ป้องกันอาการช็อกจากเลือดออกในอวัยวะภายใน ให้ผู้ป่วยกินอาหารอ่อน น้ำผลไม้หรือน้ำเกลือแร่ และพักผ่อนมากๆ ช่วงที่ต้องให้ความใส่ใจผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด คือ ช่วงที่ไข้ลด มักจะอยู่ในวันที่ 3-4 หากผู้ป่วยมีอาการผิดปกติคือ ซึมลง กินดื่มไม่ได้ มือเท้าเย็น เหงื่อออก ชีพจรเต้นเร็ว ปวดท้อง อาจเข้าสู่ภาวะช็อคและเสี่ยงเสียชีวิตได้ ขอให้รีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที
การป้องกันโรคไข้เลือดออกที่ดีที่สุด คือ ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย โดยเก็บกวาดบ้านให้สะอาด เก็บขยะเศษภาชนะรอบๆบ้าน ปิดภาชนะเก็บน้ำกินน้ำใช้ให้สนิท ไม่ให้เป็นแหล่งที่ยุงลายจะวางไข่ และฆ่ายุงลายตัวเต็มวัย ซึ่งทำง่ายและได้ผลดี โดยใช้น้ำยาล้างจานผสมกับน้ำเปล่าในอัตรา 1: 4 ส่วน เช่น น้ำยา 1 แก้วน้ำ ผสมกับน้ำ 4 แก้ว เทใส่ขวดสเปรย์และฉีดพ่นไปที่มียุงบินชุกชุม น้ำยานี้ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ