สาธารณสุขตั้งเป้าปี 59 จุดเปลี่ยนสุขภาพไทยพัฒนาสู่เป้าหมาย UN และอาเซียน

ข่าวทั่วไป Monday September 14, 2015 10:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข เปิดการประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุขประจำปี 2558 ครั้งที่ 23 ในหัวข้อ "จุดเปลี่ยนสุขภาพไทยหลังปี 2015" พร้อมบรรยายพิเศษ นโยบายสาธารณสุขปี 2559 และจุดเปลี่ยนสุขภาพไทย หลังปี ค.ศ.2015 โดยระบุว่า จุดเปลี่ยนสุขภาพไทยหลังปี ค.ศ.2015 สู่การมีสุขภาพที่ดีนั้น มีอยู่ 2 หัวข้อหลัก คือการพัฒนาให้บรรลุเป้าหมายสหประชาชาติหลังปี ค.ศ.2015 และการเตรียมพร้อมด้านสาธารณสุขเข้าสู่ประชาคมอาเซียนของไทย

ทั้งนี้ สหประชาชาติได้มีการหารือเพื่อกำหนดวาระการพัฒนาตามกระบวนทัศน์ "การพัฒนาที่ยั่งยืน" ตั้งเป้าจะบรรลุเป้าหมาย 13 ข้อ ภายในปี ค.ศ.2030 อาทิ ลดอัตราการตายของมารดาให้น้อยกว่า 70 ต่อแสนการเกิดมีชีพ ขจัดปัญหาการตายที่ป้องกันได้ของทารกแรกเกิดให้น้อยกว่า 12 ต่อ 1,000 หยุดยั้งการระบาดของเชื้อไวรัสเอดส์ วัณโรค มาลาเรีย และโรคติดต่อในกลุ่มประเทศเขตร้อน ลดการตายก่อนวัยอันควรที่เกิดจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง การสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในทุกประเทศ เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายในหลายข้อแล้ว และเป็นแบบอย่างให้แก่ประเทศสมาชิก

ในส่วนของประเทศไทย ได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ลดความเสี่ยงและบรรเทาภัยพิบัติ และส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในเวทีระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายด้านสุขภาพ 3 ด้าน ได้แก่ การสร้างประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ไทยเป็นผู้นำและเป็นแบบอย่างที่ดีต่อประเทศอื่น การให้ความสำคัญกลุ่มเด็ก สตรี ผู้พิการและผู้สูงอายุ ซึ่งไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ในปี 2568 ได้พัฒนาโครงสร้างต่างๆ ให้รองรับ เช่น โครงสร้างของโรงพยาบาลทุกระดับต้องปรับทางกายภาพและองค์กร เพื่อให้ผู้สูงอายุมาใช้บริการสะดวก ปลอดภัย และการเตรียมพร้อมรับโรคภัยสุขภาพและอันตรายต่างๆ จากสิ่งแวดล้อม จากความเจริญก้าวหน้าทางวัตถุทำให้สิ่งแวดล้อมปนเปื้อน เช่นโลหะหนัก ตะกั่ว แคดเมี่ยม ปรอท สารเคมีทางการเกษตร เป็นต้น

นพ.ปิยะสกล กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้เตรียมพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน ดังนี้ 1.ปรับตัวและสร้างความเข้มแข็งของระบบสุขภาพไทย เช่นเตรียมรองรับผู้รับบริการ เพิ่มโอกาสเข้าถึง เพิ่มศักยภาพหน่วยบริการและระบบบริการสาธารณสุขของประเทศเพื่อนบ้าน การควบคุมโรคติดต่อและโรคระบาด มาตรการรองรับผลกระทบจากการเคลื่อนย้ายบุคลากร การจัดตั้งหน่วยงานดำเนินงานด้านสาธารณสุขอาเซียนและกิจการระหว่างประเทศ 2.สร้างการยอมรับและความเป็นผู้นำในด้านงานการแพทย์และสาธารณสุขในภูมิภาค ให้เป็นศูนย์กลางด้านวิชาการ ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ การจัดการปัญหาสาธารณสุขเร่งด่วน พร้อมพัฒนาและดำเนินการในประเด็นสาธารณสุข

ด้านนพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การประชุมวิชาการปี 2558 นี้ มีบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขในสังกัดร่วมประชุมกว่า 6,400 คน และมีบุคลากรส่งผลงานวิชาการเข้าร่วมประกวดทั้งหมด 1,025 เรื่อง แบ่งเป็น 4 ประเภท คือ ผลงานวิจัยที่นำเสนอแบบวาจา 303 เรื่อง นำเสนอแบบโปสเตอร์ 404 เรื่อง นวัตกรรมหรือสิ่งประดิษฐ์ 196 เรื่อง และผลงานวิชาการอาร์ทูอาร์ 122 เรื่อง

สำหรับปี 2557 มีผลงานวิชาการยอดเยี่ยม 7 รางวัล เป็นรางวัลยอดเยี่ยม 4 รางวัล ได้แก่ นางพรพิไล วรรณสัมผัสสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองยโสธร จ.ยโสธร เรื่อง การพัฒนารูปแบบการป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออกด้วยกระบวนการห้าเครือข่าย ห้าร่วม ห้าคุณลักษณะ อำเภอเมืองยโสธร นพ.เอนก มุ่งออมกลาง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เรื่อง การเพิ่มศักยภาพของระบบเฝ้าระวังโรคจากการทำงานและเกี่ยวเนื่องจากการทำงานภายใต้กรอบแนวคิดแบบธุรกิจกิจการเพื่อสังคม นายชาติชาย นินนานนท์ รพ.มหาราชนครราชสีมา เรื่อง Artificial sac for Gastroschisis และนางเยาวดี ตั้งจิตวิทยา รพ.สุราษฎร์ธานี เรื่องการพัฒนาคุณภาพระบบเยี่ยมบ้านในเครือข่ายปฐมภูมิเขตเมืองสุราษฎร์ธานี

รางวัลดีเด่นมี 1 รางวัล คือ เภสัชกรชัยวัฒน์ สิงห์หิรัญนุสรณ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยนาท เรื่อง การพัฒนากระบวนการประสานรายการยา ผู้ป่วยนอกโรคความดันโลหิตสูงของโรคพยาบาลชุมชน จังหวัดชัยนาท รางวัลชมเชย 2 รางวัล ได้แก่ น.ส.ดวงรักษ์ สวัสดิ์ภาพ รพ.ลำปาง เรื่อง ผลของการบริหารเข่าวิธี “drop and dangle" ภายหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมเปรียบเทียบกับการใช้เครื่องช่วยงอเข่าแบบอัตโนมัติ และ นายภูดิศ สะวิคามิน รพ.เซกา จ.บึงกาฬ เรื่อง ที่นอนลมป้องกันแผลกดทับ

ส่วนผู้ได้รับรางวัลชัยนาทนเรนทร 4 ราย ได้แก่ 1.ศ.ดร.สมจิตต์ สุพรรณทัสน์ นายกสมาคมวิชาชีพสุขศึกษา กรุงเทพฯ ได้รางวัลประเภทบริหาร 2.ศ.กิตติคุณ นพ.จรัส สุวรรณเวลา รองประธานบริหาร รพ.จุฬาภรณ์ กรุงเทพฯ ได้รางวัลประเภทวิชาการ 3.นายศิวโรฒ จิตนิยม ประธานสถาบันการเงินชุมชน ต.หนองสาหร่าย อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ได้รางวัลประเภทผู้นำชุมชน และ 4.นางฮาซานียะห์ หะยีเจะอาแว อาสาสมัครสาธารณสุข อ.เมืองจ.ปัตตานี ได้รางวัลประเภทประชาชน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ