โฆษกตร. เผยเตรียมออกหมายจับผู้ต้องสงสัยเอี่ยวคดีระเบิดเพิ่มใน 1-2 วันนี้

ข่าวทั่วไป Thursday September 17, 2015 14:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผช.ผบ.ตร.) ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อเหตุระเบิดโฆษกแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทรเพิ่มเติมใน 1-2 วันนี้ ซึ่งเป็นการขยายผลจากการตรวจค้นอพาร์ทเม้นย่านพระโขนงและมหาวิทยาหอการค้าไทย โดยคาดว่าอาจเป็นผู้ให้การสนับสนุนช่วยเหลือด้านใดด้านหนึ่ง และอาจเป็นสามีของนางสาวปณิฐ์สรา ชาลีรัฐรมย์ อายุ 40 ปี ผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวได้ภายในหอพักสตรีอู๊ด ย่านดินแดง ซึ่งหากพบว่านางสาวปณิฐ์สรามีส่วนรู้เห็นด้วยนั้น ก็จะดำเนินการออกหมายจับเช่นกัน รวมถึงหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐคนใดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องช่วยเหลือก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

ส่วนนางสาววรรณา สวนสัน ผู้ต้องหาชาวไทยที่หลบหนีนั้น เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าอยู่ประเทศใด รวมถึงยังไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ประสานความมือร่วมกับสถานทูตประเทศต่าง ๆ ที่คาดว่าผู้ต้องหาอาจหลบหนีไปพักอาศัยแล้ว มั่นใจว่าจะข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการติดตามจับกุมคนร้ายอย่างแน่นอน

สำหรับกรณีที่สถานทูตประเทศตุรกีขอนำหนังสือเดินทางปลอม จำนวน 251 เล่ม ที่ตรวจยึดได้จากกลุ่มผู้ต้องหากลับไปตรวจสอบนั้น ยืนยันว่า ทางเจ้าหน้าที่ไทยไม่สามารถทำตามได้ เนื่องจากหนังสือเดินทางปลอมทั้งหมดเป็นการกระทำผิดในไทย และเจ้าหน้าที่ยังจำเป็นต้องใช้เป็นข้อมูลในการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว ขณะนี้ทำได้เพียงส่งสำเนาให้เท่านั้น แต่หากทางสถานทูตตุรกีต้องการแทบบาร์โค้ด ทางไทยก็ยินดีถอดรหัสให้ พร้อมทั้งมีการสอบถามถึงเส้นทางหลบหนีไปยังประเทศตุรกีของนายอาบูดูซาตาร์ อบูดูเราะห์มาน หรือ อิซาน เนื่องจากข้อมูลจากประเทศบังคลาเทศยืนยันชัดเจนว่า นายอิซาน หลบหนีไปยังประเทศดังกล่าว

ด้านพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงผู้ต้องหา 3 รายที่ทางการมาเลเซียจับกุมได้ว่า จะใช่ชายเสื้อเหลืองและชายเสื้อฟ้าที่ก่อเหตุวางระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทรหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถยืนยันได้จนกว่าจะมีความชัดเจนมากกว่านี้ รวมถึงจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดทั้ง 2 จุดหรือไม่นั้น ต้องรอให้มีความชัดเจนมากกว่านี้เช่นกัน แต่ยอมรับว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบรายละเอียดชายเสื้อเหลืองในขณะนี้ เนื่องจากในระหว่างเกิดเหตุกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพคนร้ายได้นั้นไม่มีความคมชัดเรื่องภาพ รวมถึงขาดอุปกรณ์ที่ทันสมัยในการตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลในการเดินทางเข้าออกต่างประเทศ จึงทำให้ยากต่อการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม ได้ประสานขอข้อมูลเพิ่มเติมกับทางการมาเลเซียไปแล้วว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีระเบิดหรือไม่ อย่างไรก็ตามทางประเทศไทยและมาเลเซียมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมายาวนาน การหารือประสานความร่วมมือกันถือว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เฉพาะการติดตามคดีระเบิดเท่านั้น แต่ยังหารือถึงความคืบหน้าคดีอื่น ๆ ด้วย เช่น การโจรกรรมรถยนต์ เป็นต้น

ทั้งนี้ ยืนยันว่าการประสานความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ ไม่มีข้อแลกเปลี่ยนตามที่เป็นกระแสข่าวใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งการไทยมั่นใจว่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทางคดีไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอย่างแน่นอน เพราะหากประเทศมาเลเซียไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ไทยเข้าสอบปากคำผู้ต้องหา ก็สามารถฝากคำถามให้เจ้าหน้าที่มาเลเซียสอบปากคำให้ได้ และเชื่อว่าประเทศมาเลเซียจะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อไทย

นอกจากนี้ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีการควบคุมตัวชายชาวปากีสถานแต่อย่างใด แต่หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดทั้ง 2 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายระหว่างประเทศต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ