(เพิ่มเติม) ผบ.ตร.แถลงความสำเร็จจับกุมมือบึ้มราชประสงค์-ออกหมายจับอีกนับสิบ

ข่าวทั่วไป Monday September 28, 2015 16:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ตั้งโต๊ะแถลงผลการสืบสวนสอบสวนคดีระเบิดราชประสงค์และท่าเรือสาทรว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารร่วมกันจับกุมกลุ่มคนร้ายก่อเหตุคดีสะเทือนขวัญดังกล่าวที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 ราย บาดเจ็บกว่า 100 คน และทำให้ประเทศไทยเกิดผลกระทบในเรื่องความน่าเชื่อถือ ซึ่งเชื่อว่ามีมูลเหตุจูงใจจากการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ที่โกรธแค้นเนื่องจากเสียผลประโยชน์หลังถูกทางการกวาดล้าง

"วันนี้สามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว และออกหมายจับผู้ร่วมขบวนอีกกว่า 10 คน ทำให้สามารถเรียกความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือกลับคืนมา" ผบ.ตร.กล่าว ในระหว่างการแถลงวันนี้

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ความสำเร็จในการคลี่คลายคดีอย่างเรียบร้อยและสมบูรณ์แบบเกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่ายที่ทำงานด้วยความพยายามและความมุ่งมั่นอย่างเต็มความสามารถ ซึ่งจะมีการสืบสวนสอบสวนขยายผลเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

"เขารับสารภาพก็ไม่ได้ไปบังคับ แต่จำนนด้วยหลักฐานของเจ้าหน้าที่ที่สามารถหามาได้...หลักฐานที่มีอยู่ขณะนี้เพียงพอที่จะเอาผิดผู้ต้องหาแล้ว" พล.ต.อ.สมยศ กล่าว

สำหรับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องในคดีนี้มีทั้งหมด 17 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้แล้ว 2 ราย คือ นายบิลาล มูฮัมมัด ชายเสื้อเหลืองมือวางระเบิดบริเวณศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ และนายไมไรลี ยุซูฟู ที่จับกุมตัวได้ที่ชายแดน จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นคนหิ้วเป้บรรจุระเบิดไปให้นายบิลาลที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 15 คนถูกศาลทหารออกหมายจับทั้งหมดแล้ว แต่มีนางวรรณา หรือนางไมซาเลาะห์ สวนสัน เพียงรายเดียวที่ใช้พาสปอร์ตตัวจริง และอยู่ระหว่างกำลังดำเนินการเพิกถอนพาสปอร์ต

ด้าน พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 (ผบก.น.6) กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปเก็บรวบรวมวัตถุพยานเป็นจำนวนมาก พร้อมสอบพยานกว่า 200 ปาก จนนำไปสู่การเข้าตรวจค้นห้องพักในพูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ สามารถจับกุมตัวนายบิลลาล มูฮัมมัด ซึ่งเป็นชายเสื้อเหลือง แต่ใช้ชื่อ อาเดม คาราดัก พร้อมยึดของกลางวัตถุประกอบระเบิดเป็นจำนวนมาก และขยายผลติดตามจับกุมตัวนายเมียไรลี ยูซูฟู ได้ที่ชายแดน จ.สระแก้ว

นอกจากนี้จากการตรวจค้นห้องพักพบถุงกระเทียมตัดจุกในตู้เย็นที่ซื้อมาจากห้างแมคโครเป็นจุดเริ่มต้นจนสามารถรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมพบว่า นายอับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์มาน เป็นผู้จัดทำวีซ่า และจัดหาที่พักว่าจ้างให้รับชายเสื้อฟ้าไปส่งห้างแมคโครฯ ก่อนจะหลบหนีไปภาคใต้ และในห้องพักยังพบใบเสร็จซื้อวัสดุอุปกรณ์ประกอบระเบิดโดยชายสวมแว่นตา และกลุ่มผู้สนับสนุนอีก 2 คนที่เป็นคนไปจดทะเบียนซื้อซิมโทรศัพท์

ต่อมาพบผู้ต้องหาชุดแรกได้เข้ามาติดต่อเช่าห้องพักที่ไมมูนาการ์เด้นโฮม โดยมีนางวรรณาเป็นคนเช่าพักอยู่กับสามีชาวตุรกี และให้กลุ่มคนร้ายเข้าไปพักอาศัยที่ห้อง 9106 โดยผู้ต้องหาได้ให้การว่า ผู้จัดหาวัตถุระเบิด คือ นายอิซาน อาบูดูซาตาเออร์ ดาบูดูเรห์มาน และพบว่ามีคนไทย คือ นายยงยุทธ์ พบแก้ว หรืออ๊อด พยุงวงศ์เคยพบเจอกับนางวรรณาที่ไมมูนาการ์เด้นโฮม จนท.จึงขอศาลออกหมายจับ ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติย้อนหลังของนายอ๊อดเคยต้องโทษจำคุก 1 ปีในคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เมื่อปี 2553 แต่ให้รอลงอาญา และมีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่สมานเมตตาแมนชั่น จ.นนทบุรี เมื่อปี 2553 และเหตุระเบิดย่านมีนบุรี เมื่อปี 2557

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า อยากจะวิงวอนไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังให้คำนึงถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น อย่าเอาเลือดเนื้อ ความเจ็บปวด น้ำตามาสนองความต้องการของตัวเอง เรื่องนี้จะเชื่อมโยงไปถึงการเมืองหรือไม่ก็คงต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน

"กรณีนี้อาจเป็นการสมประโยชน์ของคนสองกลุ่ม โดยกลุ่มหนึ่งใช้อีกกลุ่มหนึ่งดำเนินการ เรายังตัดประเด็นการเมืองไม่ได้ เพราะพยานหลักฐานเป็นเช่นนี้ ไม่ได้ไปใส่ร้ายป้ายสี หรือปรักปรำใคร ว่าไปตามพยานหลักฐานที่มี" พล.ต.อ.สมยศ กล่าว

ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า การที่นายบิลลาล หรือนายอาเด็ม ซึ่งเป็นมือวางระเบิดยังไม่หลบหนีไปไหน เพราะให้การว่ากบดานรอรับเงินค่าจ้าง ซึ่งคงต้องสืบสวนสอบสวนหาผู้จ้างวานกันต่อไป หนึ่งในนั้นที่นายยูซุฟูระบุว่าคือนายอิซานที่ขณะนี้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว และขอยืนยันว่าหลักฐานที่มีอยู่แน่นหนามัดตัวผู้กระทำผิด ไม่ใช่การสร้างหลักฐาน

ขณะที่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) กล่าวว่า พนักงานสอบสวนมีเวลาในการทำสำนวนทั้งหมด 84 วัน ตอนนี้เหลือเวลาอีก 60 วัน โดยคดีนี้ต้องนำขึ้นสู่ศาลทหารเนื่องจากเป็นความผิดเกี่ยวกับยุทธภัณฑ์ แต่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะตั้งข้อหาว่าเป็นการก่อการร้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ