โดยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการปัญหาน้ำท่วมขังใน 3 ระบบ ได้แก่ 1.ระบบการระบายน้ำ ต้องมีการประเมินสถานการณ์ล่วงหน้า เพื่อเตรียมรับปริมาณน้ำฝน รวมถึงน้ำเหนือที่จะไหลลงมาสบทบ โดยการพร่องน้ำในพื้นที่และเส้นทางที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักอย่างเต็มกำลัง อีกทั้งให้ทุกภาคส่วนบูรณาการการทำงานร่วมกันในการติดตั้งเครื่องสูบน้ำและจัดเตรียมช่างซ่อมประจำสถานีสูบน้ำบริเวณจุดเสี่ยงน้ำท่วม ตลอดจนเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการกำจัดขยะและสิ่งกีดขวางทางไหลของน้ำ เพื่อให้การระบายน้ำมีประสิทธิภาพและสถานการณ์คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
2.ระบบการอำนวยการจราจร โดยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนวางแผนการเดินทาง จัดเจ้าหน้าที่ปิดการจราจรในเส้นทางที่มีน้ำท่วมสูง และแจ้งเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด และ 3.ระบบการแก้ไขปัญหาเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนในการให้บริการซ่อมรถและลากจูงกรณีรถเสียกีดขวางเส้นทางจราจร กรณีไฟฟ้าดับบริเวณสถานีสูบน้ำ ให้จัดเตรียมเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาไฟฟ้าดับโดยเร็ว
"ได้ย้ำให้ ปภ.ประสานทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างเต็มกำลัง พร้อมประสานการปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝน" พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวขณะที่นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดี ปภ. กล่าวว่า ได้จัดชุดปฏิบัติการสนับสนุนแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือประชาชนกรณีรถเสียกีดขวางการจราจรในช่วงน้ำท่วม รวมถึงได้ประสานการปฏิบัติกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเฝ้าระวัง ให้การช่วยเหลือ และลดผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างเต็มกำลัง