กรมชลฯเผยน้ำในเขื่อนหลักพอใช้อุปโภคบริโภค-ระบบนิเวศ ย้ำงดทำนาปรัง

ข่าวทั่วไป Wednesday October 14, 2015 15:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา ฝนที่เริ่มตกน้อยลงในพื้นที่ตอนบน ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำต่างๆ ลดน้อยลงตามไปด้วย โดยล่าสุด(14 ต.ค. 58) ทั้ง 4 เขื่อน มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำรวมกันทั้งสิ้น จำนวน 10,410 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนรวมกัน(13 ต.ค.) ทั้งสิ้น 87.59 ล้านลูกบาศก์เมตร มีการใช้น้ำรวมกันวันละ 4.51 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน 3,714 ล้านลูกบาศก์เมตร

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าปริมาณน้ำใช้การได้รวมกันของเขื่อนทั้ง 4 แห่ง ปัจจุบันเป็นไปตามเกณฑ์ที่ได้ตั้งเป้าไว้ ซึ่งฤดูฝนยังเหลือระยะเวลาไปจนถึงประมาณสิ้นเดือนตุลาคมนี้ คาดว่าจะมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯเพิ่มขึ้นอีก

"สำหรับข่าวลือที่ว่า ปริมาณน้ำใช้การได้ใน 4 เขื่อนหลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยา เมื่อสิ้นสุดฤดูฝนเดือนตุลาคมนี้ จะมีปริมาณน้ำเพียงพอในการทำนาปรังนั้น เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงว่า ปริมาณน้ำใช้การได้ที่มีอยู่จะเพียงพอใช้สำหรับการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศเท่านั้น ไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนการทำนาปรังในฤดูแล้งหน้านี้ได้"

อย่างไรก็ตาม กรมชลประทาน ได้ให้โครงการชลประทานทุกแห่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจกับเกษตรกรกลุ่มผู้ใช้น้ำทุกกลุ่ม รวมทั้งประชาชนทั่วไปในพื้นที่ของตนให้ทราบถึงสถานการณ์น้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด และขอความร่วมมือให้งดทำนาปรัง เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดเพียงพอใช้สำหรับการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศตลอดในช่วงฤดูแล้ง ต่อเนื่องไปจนถึงต้นฤดูฝนเดือนพฤษภาคม 2559 ด้วย พร้อมกันนี้ ขอให้ทุกภาคส่วนรณรงค์ให้มีการใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาการขาดแคลนน้ำที่รุนแรงได้ในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ