สาธารณสุขชง ศปถ.-ท้องถิ่นแก้จุดเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนเพื่อลดความสูญเสีย

ข่าวทั่วไป Thursday November 5, 2015 14:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รมว.สาธารณสุข เสนอให้ศูนย์ความปลอดภัยทางถนน(ศปถ.) และหน่วยงานในแต่ละพื้นที่วิเคราะห์หาจุดอันตรายอย่างน้อย 5 จุด เพื่อลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุที่ทำให้คนไทยมีอัตราเสียชีวิตสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก

"ได้ให้ทุกจังหวัดวิเคราะห์ข้อมูลทางระบาดวิทยาหาจุดเสี่ยงจุดอันตรายในพื้นที่อย่างน้อยจังหวัดละ 5 จุด นำเสนอต่อศูนย์ความปลอดภัยทางถนนและหน่วยงานในพื้นที่เพื่อนำไปสู่การวางแผนแก้ไขปัญหาร่วมกันในพื้นที่ เช่น การเพิ่มไฟส่องสว่างในถนนที่มืด ติดไฟเตือนบริเวณทางร่วมทางแยก การปิดจุดกลับรถ เป็นต้น โดยจะประเมินผลการดำเนินงานทุก 3 เดือน นอกจากนี้ในช่วงเทศกาลจะเสนอให้หน่วยงานในพื้นที่เพิ่มมาตรการด่านชุมชนกว่า 7,000 ตำบลทั่วประเทศ สกัดกั้นผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงทั้ง เมาสุรา ไม่สวมหมวกนิรภัย เป็นต้น ออกสู่ถนนใหญ่ พบว่าการมีด่านชุมชนจะช่วยลดอุบัติเหตุได้มาก" นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข กล่าว

ทั้งนี้ กระทรวงฯ ให้ความสำคัญกับปัญหาอุบัติเหตุจราจร โดยกำหนดให้เป็นวาระกระทรวงสาธารณสุข และปรับแผนรณรงค์ป้องกันอุบัติเหตุจราจรจากทุกเทศกาลเป็นการรณรงค์ตลอดทั้งปี เนื่องจากเป็นสาเหตุให้คนไทยเสียชีวิตกว่า 22,000 รายต่อปี บาดเจ็บต้องเข้ารักษาในแผนกผู้ป่วยนอกปีละกว่า 1 ล้านราย บาดเจ็บรุนแรงต้องนอนรักษาในโรงพยาบาลอีกแสนกว่าราย และในจำนวนนี้ยังทำให้เกิดความพิการอีกประมาณร้อยละ 4.6 ของผู้ที่บาดเจ็บรุนแรงต้องนอนรักษาในโรงพยาบาล

โดยใช้กลยุทธ์ 5 ส.ในการทำงาน ได้แก่ 1.สารสนเทศ โดยบูรณาการข้อมูลการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากระบบเฝ้าระวังของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ตำรวจ และบริษัทกลาง รวมทั้งข้อมูลจากการสวบสวนโรคเชิงลึกจากทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว นำมาวิเคราะห์ให้ทราบสาเหตุ ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงพฤติกรรมเสี่ยง 2.สุดเสี่ยง โดยชี้จุดเสี่ยง จุดอันตรายที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลทางระบาดวิทยา 3.สหวิชาชีพ เป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันทุกวิชาชีพ 4.สุดคุ้ม ใช้ทรัพยากรในพื้นที่ในการแก้ไขปัญหา และ 5.ส่วนร่วม ดำเนินงานโดยประชาชน ชุมชน หน่วยงานในพื้นที่ ต้องให้ความร่วมมือมองเห็นปัญหาร่วมกัน จึงจะประสบความสำเร็จในการทำงาน

ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การดำเนินงานลดการบาดเจ็บ เสียชีวิต และพิการทางอุบัติเหตุจราจร กระทรวงฯ ได้วางแผนการดำเนินงาน 4 ด้าน ดังนี้ 1.ระบบข้อมูล ที่บูรณาการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำเสนอต่อศูนย์ความปลอดภัยทางถนน 2.การป้องกัน ทั้งการแก้ไขจุดเสี่ยง การบังคับใช้กฎหมาย ได้แก่ สวมหมวกนิรภัย เมาไม่ขับ ไม่ขับรถเร็ว คาดเข็มขัดนิรภัย รวมทั้งมาตรการองค์กร และด่านชุมชน 3.การรักษาพยาบาล เพิ่มคุณภาพห้องฉุกเฉิน เปิดช่องทางด่วนรองรับผู้บาดเจ็บ เพิ่มคุณภาพงานการแพทย์ฉุกเฉิน ณ จุดเกิดเหตุให้ได้มาตรฐานระดับสากลทั้งบุคลากร รถพยาบาล อุปกรณ์กู้ชีพ และสายด่วน 1669 และ 4.การบริหารจัดการ เปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ระดับกระทรวงและระบบบัญชาการในภาวะฉุกเฉินระดับเขต/จังหวัด ตั้งศูนย์จัดการการบาดเจ็บและฉุกเฉิน (Emergency & Trauma Admin Unit) ในโรงพยาบาลจังหวัดและโรงพยาบาลอำเภอขนาดใหญ่ กำหนดผู้ประสานงานในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด/สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ ทำงานร่วมกับศูนย์ความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่

ทั้งนี้ จากการถอดบทเรียนในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ ปี 2558 ที่ตั้งด่านชุมชน 206 ด่าน สกัดกั้นไม่ให้ผู้ขับขี่ที่ดื่มสุราขับรถออกสู่ถนนใหญ่ และตักเตือนผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ไม่สวมหมวก และขับรถเร็ว ทำให้ลดการเสียชีวิต ลดการบาดเจ็บได้ร้อยละ 82 ลดผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลได้ร้อยละ 77 โดยใช้ข้อมูลชี้เป้าของกระทรวงสาธารณสุข


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ