อย่างไรก็ดี เนื้อหาในหนังสือเตือนดังกล่าวยังเป็นเพียงแค่การข่าว ยังไม่มีการพิสูจน์ทราบในรายละเอียด ดังนั้นจะต้องขอไปตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริงก่อน และได้แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปด้วย
รองโฆษกตร. กล่าวว่า เมื่อมีหนังสือแจ้งเตือนออกมา ทางสตช.จะต้องเพิ่มความเข้มงวดในทุกๆ ด้าน ทั้งในด้านการข่าว การดูแลรักษาความปลอดภัยและการวางกำลังที่เข้มข้นขึ้น ในขณะที่อาจจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยในส่วนของสถานทูตและแหล่งชุมชนให้มากขึ้น
ส่วนกรณีที่ว่ากลุ่ม IS เดินทางเข้าประเทศไทยจริงหรือไม่นั้น กล่าวเพียงว่า เรื่องนี้ต้องขอตรวจสอบก่อน ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง ซึ่งเมื่อมีการแจ้งเตือนมา ทางสตช.ก็ไปม่ประมาท
"เข้าจริงหรือไม่จริง ยังไม่ทราบ ต้องขอไปตรวจสอบก่อน แต่เมื่อแจ้งเตือนกันมา เราก็ไม่กระมาท ... ตอนนี้ยังเป็นเพียงแต่การข่าวเมื่อมีหนังสือมาอย่างนี้ เราก็ต้องเพิ่มความเข้มงวด ทั้งการข่าว การดูแลรักษาความปลอดภัย และการวางกำลังที่ต้องเข้มข้นขึ้น"
ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ยืนยันว่าไม่มีขบวนการ IS ในประเทศ และประเทศไทยไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง
"ยืนยันว่าเรื่อง IS ไม่มี ผมอยู่กับการข่าวมาตลอด และประเทศไทยไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง แต่ในเรื่องการข่าวมีไว้ alert ให้เจ้าที่ทำงาน"ผบ.ตร.กล่าว
นอกจากนี้ ได้รับรายงานกรณีชาวซีเรียเดินทางเข้าประเทศไทย 200 คนเมื่อกลางเดือนต.ค.ที่ผ่านมาซึ่งเป็นนักท่องเที่ยว และขณะนี้เหลือไม่ถึง 20 คน ซึ่งเมื่อถึงกำหนดวีซ่าก็ต้องเดินทางออกนอกประเทศ ไม่เช่นนั้นจะผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม สำหรับหนังสือที่หลุดออกมาได้มอบหมายให้พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าหลุดได้อย่างไร และมีเจตนาใด เพราะทำให้ประชาชนตื่นตระหนก
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีการสั่งการให้เฝ้าระวัง เนื่องจากนายกรัฐมนตรีเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัยเป็นปกติอยู่แล้ว