รัฐคุมเข้ม 4 มาตรการหวังลดยอดผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน

ข่าวทั่วไป Thursday February 25, 2016 11:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รัฐบาลตั้งเป้ากวดขันดูแลการดำเนิน 4 มาตรการหลัก เพื่อลดความสูญเสียจากการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน หลังจากในปี 58 พบว่าไทยถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีการสูญเสียจากการบาดเจ็บจากการจราจรสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย

"กระทรวงสาธารณสุขเร่งดำเนินการสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน โดยจัดการประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางร่วมกันในการลดการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการจราจรซึ่งถือเป็นการทำงานแบบบูรณาการ โดยมีเป้าหมายระยะสั้น คือลดการบาดเจ็บและเสียชีวิตในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงในเดือนเมษายนนี้ให้น้อยกว่าช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา และในระยะยาวลดอัตราการเสียชีวิตจากการจราจรของคนไทยลดลงให้ได้ 50% ภายในปี 2563" น.พ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) บริษัทกลางคุ้มครองผู้สบภัยจากรถจำกัด และคณะทำงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด(สอจร.)

โดยกระทรวงฯ ได้มอบนโยบายการดำเนินงานให้ผู้รับผิดชอบงานด้านอุบัติเหตุ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปทุกแห่งทั่วประเทศใช้ 4 มาตรการ ได้แก่ 1.มาตรการด้านการบริหารจัดการเปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ระดับกระทรวงและระบบบัญชาการในภาวะฉุกเฉินระดับเขต/จังหวัด ตั้งศูนย์จัดการข้อมูลการบาดเจ็บและฉุกเฉิน (Emergency & Trauma Admin Unit) ในโรงพยาบาลจังหวัด กำหนดผู้ประสานงานในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด/สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ ทำงานร่วมกับศูนย์ความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่ 2.มาตรการด้านการจัดการข้อมูล โดยให้มีการบูรณการข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด และ กระทรวงคมนาคม 3.มาตรการด้านการป้องกันได้แก่ การแก้ไขจุดเสี่ยงและพฤติกรรมเสี่ยง รวมทั้ง มาตรการชุมชน โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกันคนในชุมชนของตนเองและมาตรการองค์กรเพื่อควบคุมพฤติกรรมเสี่ยงของบุคลากรในหน่วยงานสาธารณสุขและผู้มารับบริการ และ 4.มาตรการด้านการรักษาโดยเพิ่มคุณภาพการบริการตั้งแต่จุดเกิดเหตุไปจนถึงคุณภาพการรักษาในโรงพยาบาล

รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า การดำเนินการเชิงรุก กำหนดให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นองค์กรต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนน มีการจัดทำมาตรการองค์กรให้เจ้าหน้าที่ทุกคนยึดเป็นแนวปฏิบัติ เน้นการป้องกัน 3 พฤติกรรมเสี่ยงที่เป็นสาเหตุสำคัญของการบาดเจ็บและเสียชีวิต คือ ดื่มไม่ขับ ไม่ขับรถเร็ว และสวมหมวกกันน็อก และคาดเข็มขัดนิรภัย เพื่อลดความรุนแรงหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น

พร้อมกันนี้ยังได้ปรับแผนรณรงค์ป้องกันอุบัติเหตุจราจรจากทุกเทศกาลเป็นการรณรงค์ตลอดทั้งปีและได้ให้ทุกจังหวัด วิเคราะห์ข้อมูลทางระบาดวิทยา หาจุดเสี่ยงจุดอันตรายในพื้นที่อย่างน้อยจังหวัดละ 5 จุด/ไตรมาสซึ่งไตรมาสแรกมีรายงานจุดเสี่ยงจำนวน 354 จุด โดยมีการแก้ไขร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว 256 จุด เช่น การเพิ่มไฟส่องสว่างในถนนที่มืด ติดไฟเตือนบริเวณทางร่วมทางแยก การปิดจุดกลับรถ เป็นต้น ตลอดจนรณรงค์สร้างความตระหนักและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ในรูปแบบต่างๆ ตามความเหมาะสมแต่ละพื้นที่ นอกจากนี้ในช่วงเทศกาลและวันหยุดยาวจะเพิ่มความเข้มงวดของมาตรการด่านชุมชนทั่วประเทศ สกัดกั้นผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงทั้ง เมาสุรา ไม่สวมหมวกนิรภัย ออกสู่ถนนใหญ่เป็นต้น

ทั้งนี้ จากการถอดบทเรียน พื้นที่นำร่องด่านชุมชน 40 อำเภอ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 มีรายงานการตั้งด่านชุมชน 243ด่าน พบผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง จำนวน 12,080 คนสกัดกั้นได้ไม่ให้ผู้ขับขี่ที่ดื่มสุราขับรถออกสู่ถนนใหญ่ และตักเตือนผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ไม่สวมหมวก และขับรถเร็ว จำนวน 4,514 คน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ