สธ.เฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพประชาชนในพื้นที่เหมืองทองคำ พร้อมติดตามผลระยะยาว

ข่าวทั่วไป Thursday May 12, 2016 17:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงกรณีที่มีประชาชนร้องเรียนว่าการประกอบกิจการเหมืองทองคำพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก ที่อาจทำให้เกิดการปนเปื้อนนั้น อาจมีประชาชนได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการเหมืองทองคำหรือพื้นที่ศักยภาพแร่ในพื้นที่ประมาณ 8,000 คนว่า สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2559 ซึ่งเป็นการศึกษาผลกระทบระยะยาว

คือ 1.การติดตามผู้ที่มีระดับโลหะหนักในร่างกายเกินค่าอ้างอิงทุก 6 เดือน เพื่อเฝ้าระวังการสัมผัสและเฝ้าระวังผลกระทบ พร้อมทั้งติดตามว่าที่ดำเนินการไปมีผลในการลดการสัมผัสหรือไม่ 2.การเก็บข้อมูลสุขภาพและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เปรียบเทียบ โดยเสนอให้มีการมีเลือกพื้นที่เปรียบเทียบใน 3 พื้นที่ โดยพื้นที่ที่จะเลือกต้องมีลักษณะทางธรณีวิทยา ปริมาณน้ำฝน ลักษณะประชากร ฯลฯ ที่คล้ายคลึงกัน

3.การจัดทำคู่มือ การเฝ้าระวัง และดูแลรักษาสุขภาพประชาชน รอบเหมืองทองคำเพื่อให้ทุกหน่วยงานในกระทรวงร่วมกันจัดทำแนวทางการดำเนินงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และ 4.การแปรผลข้อมูลสิ่งแวดล้อมสุขภาพโดยการใช้แผนที่ เป็นหนึ่งในการแปรผลข้อมูลสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ รวมทั้งการกระจายตัวของผู้ที่ได้รับผลกระทบว่ามีความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมหรือระยะห่างจากเหมืองอย่างไร ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินงาน หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

นพ.อำนวย กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการเฝ้าระวังและดูแลสุขภาพประชาชนรอบเหมืองทองคำอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2558 โดยมีการดำเนินงานใน 4 มาตรการหลัก คือ 1.การเฝ้าระวังและดูแลสุขภาพประชาชน 2.การสำรวจ เฝ้าระวังทางด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและห่วงโซ่อาหาร 3.พัฒนาระบบข้อมูล และ 4.การสื่อสารความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง

ในปี 58 กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และมหาวิทยาลัยรังสิต ลงพื้นที่ในการตรวจติดตามและคัดกรองสุขภาพประชาชนในพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัด รวม 3 ครั้ง โดยตรวจหาสารที่อาจปนเปื้อน ได้แก่ แมงกานีสในเลือด สารหนูในปัสสาวะ และไทโอไซยาเนตในปัสสาวะ และมีผู้ได้รับการตรวจคัดกรองสุขภาพ 1,002 ราย พบว่ามีแมงกานีสในเลือดเกินค่าอ้างอิง 417 ราย คิดเป็นร้อยละ 41.6, สารหนูในปัสสาวะเกินค่าอ้างอิง 278 ราย คิดเป็นร้อยละ 27.7 และไทโอไซยาเนตในปัสสาวะเกินค่าอ้างอิง 59 ราย คิดเป็นร้อยละ 5.9

นพ.อำนวย กล่าวว่า สำหรับในปี 59 นี้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหา ข้อขัดแย้ง ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพจากการทำเหมืองแร่ทองคำ โดยมีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธานคณะทำงาน และได้แต่งตั้งคณะทำงานภายใต้คณะกรรมการดังกล่าว 2 ชุด ได้แก่ 1.คณะทำงานตรวจสอบและแก้ไขปัญหาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม 2.คณะทำงานตรวจสอบและแก้ไขปัญหาผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชน เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงผลการตรวจสุขภาพและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งออกแบบวางแผนตรวจติดตามสุขภาพของประชาชน รวมทั้งวิเคราะห์หาสาเหตุผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เพื่อหามาตรการแนวทางการป้องกันปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อม โดยได้มีการประชุมหารือวางแผนดำเนินการ และติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง

ส่วนการจัดบริการสุขภาพสำหรับประชาชน กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการพัฒนาระบบบริการสุขภาพในพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัด ดังนี้ จัดตั้งคลินิกอาชีวเวชกรรมและเวชกรรมสิ่งแวดล้อมในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จัดตั้งศูนย์อาชีวเวชกรรมและเวชกรรมสิ่งแวดล้อมในโรงพยาบาลชุมชน (รพช.) และจัดตั้งศูนย์เชี่ยวชาญอาชีวเวชกรรมและเวชกรรมสิ่งแวดล้อมในโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป เพื่อรองรับการส่งต่อการรักษาผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ และในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งทีมหมอครอบครัว เพื่อติดตามเยี่ยมผู้ป่วยและผู้ที่มีระดับโลหะหนักในร่างกายเกินค่าอ้างอิง โดยมีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ