หน่วยงานความมั่นคงเตรียมเซ็น MOU ใช้ฐานข้อมูลเดียวกันอย่างเป็นระบบ เริ่ม ธ.ค.นี้

ข่าวทั่วไป Wednesday November 2, 2016 17:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 คณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปด้านความมั่นคง ลดความเหลื่อมล้ำ การเกษตรทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 12/2559 โดยภายหลังการประชุม พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงว่า การประชุมมีเป้าหมายขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศระยะเร่งด่วน เน้นการลดความเหลื่อมล้ำสร้างความเป็นธรรมในสังคมให้ประชาชนเข้าถึงทรัพยากรได้เป็นธรรม และผลักดันเข้าสู่ประชารัฐ เน้นความยั่งยืน จากการมีส่วนร่วมกัน และเน้นสนองพระราชปณิธานของในหลวง รัชกาลที่ 9 เรื่องความพอเพียง เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนามาปรับใช้

ทั้งนี้ งานของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเรื่องความมั่นคง และภัยคุกคามต่างๆ ซึ่งจะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกันของหน่วยงานความมั่นคง โดยเริ่มทำงานในเดือน ธ.ค.นี้ และจะดำเนินการเต็มรูปแบบในเดือน มี.ค.60 เพื่อมีฐานข้อมูลเดียวกันและทำงานอย่างเป็นระบบ

ขณะที่การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์นั้น รัฐบาลพยายามทำให้ถูกต้องและเป็นสากล โดยอยู่ระหว่างการแก้ไขกฎหมายแรงงานสัมพันธ์ 127 มาตรา จาก 148 มาตรา และจะนำร่างกฎหมายดังกล่าวไปรับฟังความคิดเห็น ทั้งจากองค์กรนายจ้างและลูกจ้าง และองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อให้ได้รับการยอมรับมากขึ้น และตั้งเป้าร่วมลงนามสัตยาบันอนุสัญญาว่าด้วยแรงงาน 1998 ภายในปี 2560 ให้ได้ รวมทั้งผลักดันให้มีการเพิ่มพนักงานตรวจแรงงานไทยขึ้นเป็น 255 คน ครบตามเกณฑ์ของสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะมีผลต่อการผลักดันแก้ไขปัญหาแรงงานและค้ามนุษย์ด้วย

ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. กล่าวว่า ในส่วนการแก้ปัญหาการบินพลเรือน มีการรายงานความคืบหน้าให้ที่ประชุมทราบ โดยรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา มีการแก้ข้อบกพร่องไปแล้วกว่า 1 พันรายการ แต่ยังคงปรับเข้าสู่มาตรฐานอีก 500 รายการ ขณะที่การออกใบรับรองผู้เดินอากาศยานใหม่แบ่งเป็น 5 เฟส จะแล้วเสร็จภายในก.พ.60 ซึ่งจะมีการรายงานแผนการตรวจสอบที่ผ่านมาของไทย รวมทั้งแผนปี 60 ส่งให้สหภาพยุโรปเป็นข้อมูลด้วย เพื่อทำให้การพิจารณามีความชัดเจนขึ้น และเชื่อว่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี ขณะที่การแก้ไขกฎหมายก็จะทำให้เป็นสากลต่อไป

รองโฆษก คสช. ระบุว่า พล.อ.ประวิตร ได้กำชับว่าการรายงานข้อมูลของหน่วยงานต่างๆ ขอให้มีความชัดเจน เรื่องใดที่เป็นข้อกังวลและเป็นข้อแนะนำก็ต้องเร่งดำเนินการ เพื่อให้ไทยมีสายการบินที่สามารถบินสู่สหรัฐอเมริกาได้ตามเดิม

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ ยังกล่าวถึงกรณีการให้ทหารลงพื้นที่รับฟังปัญหาข้อเท็จจริงจากชาวนา เพื่อแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ทหารแต่ละพื้นที่จะลงพื้นที่ไปเก็บข้อมูลปัญหาและอุปสรรคที่ทำให้กลไกราคาข้าวเกิดปัญหา ส่วนการไปพบโรงสีนั้นยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการไปตรวจสอบ แต่จะเป็นการพูดคุยขอความร่วมมือ เพื่อให้ช่วยชื้อข้าวกับชาวนาในราคาที่เหมาะสม รวมถึงรับฟังปัญหาของโรงสีเช่นกัน

ขณะเดียวกันทหารจะรับชื้อข้าวจากชาวนาผ่านระบบสหกรณ์การเกษตร เพื่อนำไปประกอบเลี้ยงและจำหน่าย ซึ่งปริมาณขึ้นอยู่กับชาวนาว่ามีข้าวมากน้อยเพียงใด โดยรับซื้อในราคาจำนำยุ้งฉางที่ราคาตันละ 13,000 บาท พร้อมกันนี้ คสช.ยังส่งทหารไปช่วยชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวที่ประสบปัญหาน้ำท่วมและแรงงานไม่พอ โดยได้เริ่มไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ (1 พ.ย.) ทั้งนี้ข้อมูลจากการลงพื้นที่จะถูกรวบรวมนำส่งรัฐบาลในการแก้ปัญหาในระยะยาวต่อไป

ส่วนกระแสข่าวว่ามีนักการเมืองจับมือกับโรงสีในการกดราคาข้าวนั้น พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล โดยยืนยันว่าทหารไม่ได้เข้าไปข่มขู่โรงสี แต่เป็นเพียงการขอความร่วมมือไม่ให้กดราคาข้าวจากชาวนา และไม่ได้ลงไปกำหนดราคาซื้อขายแต่อย่างใด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ