รัฐบาลเดินหน้าลงลึกขยายผลปราบปรามผู้มีอิทธิพลต่อเนื่อง คุ้มครองสุจริตชนประกอบอาชีพได้เท่าเทียมกัน

ข่าวทั่วไป Sunday March 5, 2017 15:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมได้กล่าวกับหน่วยงานความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง ในหลายวาระที่ผ่านมา ให้เดินหน้าลงลึกขยายผลปราบปรามผู้มีอิทธิพลอย่างต่อเนื่อง ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมให้กับสังคม โดยย้ำว่า ขณะที่ รัฐบาลกำลังสร้างการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำของสังคมทั้งเชิงโครงสร้างอำนาจและทางกายภาพที่ผ่านมานั้น มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพให้แก่สุจริตชนให้มีที่ยืนในสังคม สามารถประกอบอาชีพและใช้ชีวิตอย่างเท่าเทียมกันในสังคมให้ได้ ภายใต้การบังคับใช้กฎหมายที่ทั่วถึงและเป็นธรรมอย่างจริงจังควบคู่กันไป

พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า ที่ผ่านมา การปราบปรามผู้มีอิทธิพลมีความคืบหน้าไปมาก โดยได้รับความร่วมมือจากภาคประชาชน ร่วมแจ้งข้อมูลและเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่รัฐมากขึ้นเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง เป็นผลให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง สามารถเชื่อมโยงข้อมูลและรวบรวมหลักฐาน ทยอยจับกุมผู้มีอิทธิพลรายใหญ่ๆและเครือข่ายใน 16 ฐานความผิดได้อย่างต่อเนื่อง โดยสรุปพอสังเขป ดังนี้

กลุ่มนายไซซะนะ ซึ่งมีเครือข่ายยาเสพติดมากกว่า 100 เครือข่าย ส่งขายไปยังไทยและภูมิภาคอาเซียน โดยมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งผู้มีอิทธิพลข้ามชาติที่เข้ามาในไทย ในเบื้องต้นมีทรัพย์ที่อายัดได้มูลค่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ฝ่ายความมั่นคงได้รับข้อมูลจากประชาชนจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ได้เชื่อมโยงขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดในทุกภูมิภาค อย่างต่อเนื่อง ยึดยาเสพติดที่เป็นปัญหาทำลายชีวิตคนและบั่นทอนสังคมได้จำนวนมาก

การจับกุมการปล่อยเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ ซึ่งเป็นปัญหาบั่นทอนจิตใจของกลุ่มประชาชนหาเช้ากินค่ำที่ประกอบอาชีพโดยสุจริต โดยมีประชาชนร้องเรียนและให้ข้อมูลมาเป็นจำนวนมาก สามารถเชื่อมโยงเครือข่ายการใช้กลุ่มชายชุดดำทวงหนี้แบบวิธีนักเลง จนได้มีการจับกุมผู้ปล่อยกู้นอกระบบหลายราย และล่าสุดนำมาซึ่งจับกุม กลุ่มนายวิชัย ปั้นงาม เจ้าพ่อเงินกู้รายใหญ่ที่สุดของประเทศ ที่มีเครือข่ายปล่อยกู้ ร่วม 100 สาขา ครอบคลุมหลายจังหวัด พบเครือข่ายผู้กระทำผิดมากกว่า 200 ราย ลูกหนี้กว่า 170,000 ราย มีเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 4,000 ล้านบาท

ปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งถูกปล่อยละเลย สั่งสมจนเป็นปัญหาระดับชาติ ที่ประเทศไทยถูกรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ปี 57 ลดอันดับลงมาในกลุ่มระดับเลวร้ายที่สุด ซึ่งต่อมารัฐบาลได้ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ และใช้ความพยายามร่วมกันเร่งสะสางแก้ปัญหาเชิงลึก จนได้รับการเลื่อนอันดับดีขึ้นในกลุ่มประเทศซึ่งต้องจับตามอง โดยเฉพาะการบังคับใช้แรงงานหรือค้าประเวณี ซึ่งที่ผ่านมา ข้อมูลที่ได้จากประชาชนสามารถขยายผลนำจับสถานบันเทิงที่ผิดกฎหมาย และสถานบริการที่เข้าข่ายการค้ามนุษย์ทั่วประเทศ ที่มีการบังคับใช้แรงงานผิดกฎหมายหลายแห่ง โดยรายสำคัญ เช่น นาตาลีและเอไลน่า อาบอบ นวด ช่วยเหลือหญิงสาว ที่เป็นเด็กและชาวต่างด้าว ออกมาได้กว่า 200 ราย สอบสวนขยายผลเชื่อมโยงเครือข่ายบริษัทอื่นๆ ที่มีเจ้าของเป็นกลุ่มเดียวกัน นำสู่การอายัดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 700 ล้านบาท เป็นต้น

พล.ต.คงชีพ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับฐานความผิดอื่นๆในรายสำคัญๆ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง กำลังรวบรวมข้อมูลที่ได้จากงานข่าวและเบาะแสที่ได้รับแจ้งจากประชาชนทั่วประเทศ. ซึ่งภาพรวมของสังคม. ชุมชนท้องถิ่นมีความตื่นตัวในการร่วมปกป้องสิทธิและเสรีภาพของตนเองมากขึ้น จากความร่วมมือเบาะแสข่าวที่ร่วมแจ้งเข้ามามากขึ้นอย่างต่อเนื่องตามลำดับ โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด การปล่อยกู้นอกระบบ การค้ามนุษย์ การข่มขู่จากกลุ่มที่มีและใช้อาวุธ รวมทั้งกลุ่มชาวต่างประเทศที่แสดงตนเป็นผู้มีอิทธิพล ซึ่งฝ่ายความมั่นคงจะดำเนินการอย่างเฉียบขาดต่อไป โดยไม่เว้นหากมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ