สาธารณสุข คาดหน้าร้อนปีนี้มีผู้ป่วยโรคลมแดดสูงถึง 400 คน/เดือน

ข่าวทั่วไป Thursday March 16, 2017 13:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) คาดช่วงหน้าร้อนปีนี้จะมีผู้ป่วยโรคลมแดดลมร้อน หรือฮีทสโตรก ประมาณเดือนละ 150-400 คน โดยจะพบผู้ป่วยโรคดังกล่าวสูงสุดในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. โดยช่วงฤดูร้อนของทุกปี สิ่งที่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษคือการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากภาวะอากาศร้อน โดยเฉพาะโรคฮีทสโตรก ซึ่งเป็นภาวะวิกฤตที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัวหรือควบคุมระดับความร้อนในร่างกายได้ เกิดจากมีความร้อนในสิ่งแวดล้อมสูงจนร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนได้ตามปกติ พบได้บ่อยในผู้ที่ทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานาน ในนักกีฬา หรือในทหารที่ต้องฝึกหนักกลางแจ้ง ผู้ป่วยจะรู้สึกอ่อนเพลีย หน้ามืด หากมีอาการรุนแรงผู้ป่วยจะตัวร้อนจัด เหงื่อไม่ออก คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เป็นลม ซึ่งในบางรายอาจถึงแก่ชีวิตได้

สถานการณ์ของโรคฮีทสโตรกตั้งแต่ปี 57-59 มีรายงานผู้ป่วยประมาณ 2,500-3,000 รายต่อปี สถิติมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและมีผู้ป่วยสูงสุดในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.ของทุกปี ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยทำงานที่มีกิจกรรมกลางแจ้ง อาชีพที่พบผู้ป่วยมากสุดคือ เกษตรกรรม รับจ้าง ทหาร เป็นต้น โดยในปีที่ผ่านมาพบผู้ป่วยมีอายุเฉลี่ยประมาณ 41 ปี ซึ่งเป็นวัยกลางคนและเป็นวัยทำงานนั่นเอง

ทั้งนี้ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ได้วิเคราะห์สถานการณ์โรคในระบบเฝ้าระวังต่างๆ ที่ผ่านมา โดยวิธีอนุกรมเวลา วิเคราะห์จำนวนและช่วงเวลาการเกิดโรค เพื่อคาดการณ์แนวโน้มของการเกิดโรคลมแดด ลมร้อน หรือฮีทสโตรก โดยคาดการณ์จำนวนผู้ป่วยรายเดือนในช่วงเดือน มี.ค.-มิ.ย.60 พบว่าจำนวนผู้ป่วยจะมีแนวโน้มสูงขึ้นในช่วงฤดูร้อน โดยจะพบผู้ป่วยประมาณ 150-400 รายต่อเดือน โดยสูงสุดในเดือน เม.ย.-พ.ค.

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า คำแนะนำสำหรับประชาชน คือ หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดที่ร้อนจัด โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว ควรดื่มน้ำเปล่ามากๆ ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องรอหิวน้ำ สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายความร้อนได้ดี โปร่งสบาย ไม่รัดแน่นจนเกินไป หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ไม่ปล่อยให้ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยติดเตียงในบ้านที่เป็นห้องกระจกปิดไว้เพียงลำพัง และไม่ทิ้งเด็กเล็กหรือผู้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ไว้ในรถที่จอดตากแดด หากมีอาการตัวร้อนแต่เหงื่อไม่ออก หายใจถี่ อาจวิงเวียนศีรษะ ให้รีบไปพบแพทย์ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงสำคัญ 6 กลุ่มที่ต้องดูแลสุขภาพของตนเองเป็นพิเศษ ได้แก่ 1.ผู้ที่ทำงานหรือทำกิจกรรมกลางแดด เช่น เล่นกีฬาหรือฝึกทหารโดยขาดการเตรียมตัวมาก่อน ผู้ใช้แรงงานกลางแดด เช่น กรรมกร ก่อสร้าง เกษตรกร เป็นต้น 2.เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ และผู้สูงอายุ 3.ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง 4.คนอ้วน 5.ผู้ที่อดนอน และ 6.ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จัด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ