"ศรีวราห์"ปัดคุมตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุระเบิด รพ.พระมงกุฎฯ แต่ยันสอบสวนคืบหน้า

ข่าวทั่วไป Wednesday May 24, 2017 17:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) เป็นประธานประชุมติดตามความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 ปี โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ยืนยันว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด โดยกรณีมีรายงานว่าพบผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นชาย 3 รายที่ปรากฎในภาพนั้น จากการตรวจสอบพบว่าเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเท่านั้น

ส่วนกระแสข่าวที่ว่าหน่วยงานความมั่นคงของทหาร สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 รายนั้น ยังไม่ทราบรายละเอียดดังกล่าว และขณะนี้ยังไม่มีการประสานมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าขณะนี้การสืบสวนสอบสวนมีความคืบหน้าไปแล้วพอสมควร แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากอยู่ในการตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะผลดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุ และกำลังเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียง ซึ่งได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์พอสมควร รวมถึงได้สอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์ และ ผู้ได้รับบาดเจ็บแล้ว แต่ยังไม่มีการสอบปากคำบุคคลต้องสงสัยแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ได้ทำการสเก็ตซ์ภาพบุคคลต้องสงสัยอย่างน้อย 1 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำภาพสเก็ตดังกล่าวไปทำการเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แล้ว

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวถึงกรณีมีจดหมายแจ้งเตือนก่อนเกิดเหตุระเบิด 3 ฉบับว่า จากการตรวจสอบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เนื่องจากเป็นการแจ้งเตือนคนละพื้นที่กัน และลายมือที่เขียนจดหมายทั้ง 3 ฉบับเป็นคนละลายมือกัน อีกทั้งยังไม่พบความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดทั้งหมดที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังอยู่ระหว่างทำการตรวจสอบที่มาของจดหมาย ซึ่งได้ส่งผ่านทางไปรษณีย์ในพื้นที่ 3-4 เขต โดยมีตู้ไปรษณีย์ที่จะต้องตรวจสอบถึง 400 ตู้ และ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกำลังตรวจสอบลายนิ้วมืออยู่ในขณะนี้

พล.ต.อ.ศรีวราห กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการตัดประเด็นใดทิ้ง และเร่งสืบสวนสอบสวนตามพยานหลักฐานที่ตรวจพบ ซึ่งยืนยันว่าแนวทางการสืบสวนสอบสวนยังคงสามารถดำเนินต่อไปได้ และเบื้องต้นพอทราบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยบ้างแล้ว เนื่องจากลักษณะระเบิดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ และแผนประทุษกรรมของคนร้ายมีลักษณะคล้ายกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่อปี 53


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ