กรมฝนหลวงฯ ปรับแผนเตรียมปฏิบัติการเพิ่มปริมาณน้ำช่วยภาคเหนือ-อีสาน-ภาคกลางตอนบน

ข่าวทั่วไป Monday July 3, 2017 14:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและ การบินเกษตร เปิดเผยว่า พื้นที่การเกษตรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังมีปริมาณน้ำการเกษตรอยู่ในเกณฑ์เพียงพอต่อการเพาะปลูกและปริมาณน้ำเก็บกักของอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนลำปาว และเขื่อนห้วยหลวง มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนสถานการณ์น้ำใช้การได้ของเขื่อนลำตะคอง ยังมีปริมาณน้อยอยู่ตลอดจนสถาการณ์น้ำในพื้นที่ภาคกลางตอนล่างยังมีปริมาณเพียงพอสามารถเลี้ยงตัวเองได้ในระดับหนึ่ง

ส่วนสถานการณ์น้ำของเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแม่กวง เขื่อนวชิราลงกรณ์ ยังมีปริมาณน้อยอยู่ กรมฝนหลวงและการบินเกษตรจึงปรับแผนการปฏิบัติการฝนหลวงให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในปัจจุบัน โดยภาคเหนือ ยังคงหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่ที่กองบิน 41 เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับเขื่อนที่รับผิดชอบ โดยเน้นที่เขื่อนแม่งัด แม่กวง ส่วนหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดตาก ที่ท่าอากาศยานตากยังคงให้อยู่ปฏิบัติการฝนหลวงช่วยพื้นที่การเกษตรและลุ่มรับน้ำเขื่อนภูมิพล และให้ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนกลวงจังหวัดพิษณุโลก ที่กองบิน 46 เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับเขื่อนสิริกิติ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดนครราชสีมา ที่กองบิน 1 เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและเพิ่มปริมาณน้ำให้กับเขื่อนลำตะคอง

ภาคกลาง ปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดลพบุรีที่กองบิน 2 เนื่องจากสถานการณ์น้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่ภาคกลางตอนล่างมีปริมาณเพียงพอสามารถเลี้ยงตัวเองได้ในระดับหนึ่งและบางพื้นที่มีน้ำท่วมขัง ส่วนหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดกาญจนบุรี ที่สนามบินกองพล 9 เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและลุ่มรับน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์ และตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดนครสวรรค์ที่อำเภอตาคลี กองบิน 4 เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรภาคกลางตอนบน โดยมีเครื่องบินกองทัพอากาศ ชนิดเอยู-23 จำนวน 2 เครื่องที่ติดตั้งอุปกรณ์พลุสารดูดความชื้นเพื่อเสริมการปฏิบัติการฝนหลวงเมฆอุ่น

ส่วนภาคใต้และภาคตะวันออกยังคงหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่เพื่อปฏิบัติการฝนหลวง ช่วยเหลือด้านการเกษตรและการเติมน้ำเขื่อนในพื้นที่ที่รับผิดชอบ

นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการปรับแผนปฏิบัติการฝนหลวงในครั้งนี้ได้ปรับแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในแต่ละพื้นที่ นอกจากนี้ยังให้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นการร่วมมืออย่างบูรณาการ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร การจัดการน้ำและพื้นที่ได้รับผลกระทบต่อประชาชน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ