พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติบ่ายนี้ จะมีการนำคำสั่ง ม.44 ในการแก้ไขการบริหารจัดการน้ำมาหารือ เพื่อต้องการให้การทำงานของกรมทรัพยากรน้ำมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากต้องมีบทบาทรับผิดชอบหลักในการบริหารจัดการน้ำและบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่น ซึ่งอาจจะมีการปรับโอนบางส่วนมาสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยจะทำหน้าที่เป็นแกนหลักในการบริหารจัดการน้ำ ทั้งเรื่องการกักเก็บน้ำ การพร่องน้ำ การระบายน้ำ และการส่งน้ำ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลมีโครงการอยู่ในทุกพื้นที่ ซึ่งแผนการแก้ไขปัญหาอุกทกภัยถือเป็นแผนการใหญ่และยังติดปัญหาเรื่องที่ดินด้านการเกษตรของประชาชน ซึ่งขณะนี้มีพื้นที่ประมาณ 5 ล้านไร่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและเป็นพื้นที่ท่วมซ้ำซาก แม้รัฐบาลจะเร่งระบายน้ำออกแล้ว แต่ก็ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนว่าส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ต่ำจึงประสบปัญหาเดิมๆ ดังนั้นจึงต้องให้คำแนะนำแก้ไขด้วยการปรับพื้นที่เพาะปลูกให้เหมาะสม
"การประชุมวันนี้ ก็จะหารือถึงแผนงานโครงการที่สามารถดำเนินการได้เลย เพื่อให้สามารถลดปัญหาลงได้ แม้จะไม่สามารถแก้ปัญหาทั้งหมดได้เลยก็ตาม แต่ต้องแก้ไขปัญหาให้ได้อย่างน้อย 30 % ของแผนงานทั้งหมด และพยายามแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
พร้อมย้ำว่า รัฐบาลมีแผนงานในการแก้ปัญหาทุกอย่าง แต่ที่ผ่านมาไม่ได้แก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะเรื่องของการระบายน้ำที่ต้องมีการขุดลอกคูคลอง ขยายลำน้ำ แต่ยังมีการออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านด้วยเหตุผลต่างๆ
"แม้แต่โครงการในพระราชดำริยังทำไม่ได้ เพราะประชาชนไม่ยินยอม แล้วใครจะรับผิดชอบกับผมบ้าง NGO กลุ่มต่างๆ ที่ไม่คัดค้านว่าอย่างไร น้ำท่วมออกมาพูดบ้างหรือไม่ ผมก็ต้องทำได้ให้อย่างน้อย 30%"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ส่วนพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากนั้น รัฐบาลกำลังดำเนินการเพื่อขอเป็นพื้นที่รับน้ำ แต่มีประชาชนบางส่วนที่ไม่ยินยอมและยืนยันจะเพาะปลูกตามเดิม ซึ่งรัฐบาลก็จะเดินหน้าแก้ปัญหาต่อไป