นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สถานการณ์โรคเมลิออยโดสิส ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-22 ส.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานผู้ป่วยแล้ว 1,978 ราย เสียชีวิต 21 ราย ซึ่งโรคนี้สามารถพบผู้ป่วยได้ทุกภาค และพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูฝน โดยพบสูงสุดในเดือนสิงหาคมของทุกปี ซึ่งจากการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ในปีนี้พบว่ามีจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตสูงมากกว่าปีที่ผ่านๆ มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งพบจำนวนผู้เสียชีวิตมากกว่าภาคอื่น
"การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ คาดว่ามีโอกาสพบผู้ป่วยโรคเมลิออยโดสิสเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน และในบางพื้นที่ยังคงมีน้ำท่วมขัง" นพ.เจษฎา กล่าว
สำหรับโรคเมลิออยโดสิสเป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในดินและน้ำ ผู้ป่วยติดเชื้อจากการสัมผัสดินหรือน้ำเป็นเวลานานหรือผ่านทางบาดแผล จากการดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารที่มีเชื้อปนเปื้อนเข้าไป หรือจากการหายใจอากาศที่มีเชื้อปนเปื้อนเข้าไป โรคนี้มีอาการไม่จำเพาะ ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการไข้เป็นเวลานาน ไม่ทราบสาเหตุ มีเนื้อตาย แผล ฝี หนองที่ปอด ตับ หรือม้าม และอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด โรคนี้พบในผู้ใหญ่มากกกว่าเด็ก โดยผู้ป่วยจะมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งส่วนใหญ่มักเสียชีวิตภายใน 2-3 วันหลังเข้ารักษาในโรงพยาบาล ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น โรคติดเชื้อทางเดินหายใจเรื้อรัง วัณโรค เบาหวาน โรคไต โรคเลือด มะเร็ง และภาวะบกพร่องทางภูมิคุ้มกัน เป็นต้น
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค แนะนำวิธีปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันและให้ปลอดภัยจากโรคนี้ คือ การใส่รองเท้าบู๊ทเมื่อจำเป็นต้องเดินลุยหรือย่ำน้ำเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีน้ำท่วม ดื่มน้ำต้มสุก หลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อสัตว์สุกๆ ดิบๆ และหลังสัมผัสน้ำและดิน ควรทำความสะอาดร่างกายทันที หากมีอาการไข้เกิน 5 วันหรือเกิดแผลอักเสบเรื้อรัง ควรจะรีบไปพบแพทย์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422