นายกฯ ชื่นชม "ตูน" เสียสละทำเพื่อประเทศ พร้อมมอบเงินบริจาคส่วนตัวให้โครงการ"ก้าวคนละก้าว"

ข่าวทั่วไป Monday December 4, 2017 10:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ "ตูน บอดี้สแลม" ประธานโครงการ "ก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ" พร้อมด้วยทีมงานก้าวคนละก้าว และน.ส.รัชวิน วงศ์วิริยะ หรือ ก้อย และครอบครัวของนายอาทิวราห์ ที่เดินทางมาเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีแสดงความดีใจอย่างมากที่ได้พบกับตูนและทีมงาน และถือว่าวันนี้เป็นการประชุม ครม.นัดแรกของประยุทธ์ 5 ถือว่าตูนได้มาพร้อมกับ ครม.ชุดใหม่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ติดตามการวิ่งของตูนมาตั้งแต่เริ่มต้น และโดยส่วนตัวได้สนับสนุนโครงการนี้มาตั้งแต่ครั้งแรกที่บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่โครงการครั้งนี้มีระยะทางไกลกว่าเดิม ดังนั้นหากไม่มีความมุ่งมั่นหรือไม่มีความตั้งอกตั้งใจก็ไม่สามารถประสบผลสำเร็จได้ ซึ่งถือว่าทุกคนได้ร่วมมือกันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะตูนที่เป็นตัวหลักในการนำวิ่ง และมองว่าโครงการนี้ถือเป็นความร่วมมือของทุกคนที่ได้ทำ และไม่หวังชื่อเสียง ถือว่าตูนเป็นคนหนึ่งที่ตั้งใจทำเพื่อประเทศ และที่ผ่านมาตูนถือเป็นขวัญใจของประชาชน ซึ่งการสร้างชื่อเสียงนั้นถือว่ายากแล้ว แต่การรักษาไว้เป็นเรื่องที่ยากกว่า

นายกรัฐมนตรี ยังชื่นชมที่ตูนสำเร็จการศึกษาด้านนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถือว่าตูนเป็นคนศตวรรษใหม่ คิดแบบใหม่ และเป็นต้นแบบที่ทำเพื่อคนไทยทั้ง 70 ล้านคน สอดคล้องกับแนวทางของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะตั้งจิตอาสาทำเพื่อสังคม ขณะเดียวกัน การจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นการถวายแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบามสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชอีกด้วย เพราะการกระทำเช่นนี้คือการทำเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เช่นเดียวกับรัฐบาลนี้ที่พยายามขับเคลื่อนแนวทางประชารัฐให้กับทุกคน และยอมรับว่าแม้จะมีอุปสรรคในการแก้ไขปัญหาประเทศบ้าง โดยเฉพาะงบประมาณภาครัฐที่จะต้องกระขายไปทุกภาคส่วน ทำให้บางครั้งงบประมาณที่มาใช้สนับสนุนอาจน้อยลง เช่น ด้านการสาธารณสุข ที่รัฐได้ไปสนับสนุนหลักประกันสุขภาพ อีกทั้งงบฯ บางส่วนการสนับสนุนการก่อสร้างอาคารและเครื่องมือแพทย์ ซึ่งยังถือว่าน้อย ดังนั้นการที่ตูนเข้ามาช่วยเหลือถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่อยากให้ตูนได้ช่วยทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องเงินสนับสนุนจากภาครัฐด้วย ว่ารัฐบาลจะต้องใช้จ่ายงบประมาณไปในทุกด้าน

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้สอบถามถึงระยะทางการวิ่งของตูน เพราะทุกคนมีความหวังว่าอยากเห็นตูนวิ่งได้ถึงจุดหมาย แต่ขออย่าฝืนร่างกาย พร้อมกับกล่าวแซวตูนว่า พร้อมจะส่งให้ไปวิ่งข้ามทะเลทรายจะไหวหรือไม่ ขณะเดียวกันยังถามไถ่ถึงครอบครัวของตูน โดยเฉพาะพ่อกับแม่ในการดูแลลูก 3 คน และภูมิใจแทนพ่อแม่ที่ลูกได้ทำประโยชน์เพื่อประเทศ รวมถึงอวยพรให้ก้อยและตูนรักกันนานๆ และดูแลกันตลอดไป

นอกจากนี้ ยังสอบถามถึงการดูแลความเรียบร้อยตลอดเส้นทาง ตั้งแต่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ว่ามีปัญหาหรือไม่ เพราะรัฐบาลเป็นห่วง และได้สั่งการทหารและเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยตลอดเส้นทาง แต่เห็นภาพการต้อนรับตูนจากประชาชนแล้ว นั่นคือประชาชนดูแลตูนให้เกิดความเรียบร้อยตลอดเส้นทาง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี พร้อมฝากให้แพทย์และทีมงานทุกคน ดูแลและจัดกิจกรรมในการวิ่งให้เหมาะสมกับสถานการณ์

อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรี กล่าวว่ารู้สึกเสียดาย เพราะหากอายุน้อยกว่านี้ก็จะไปร่วมวิ่งด้วยกับตูนด้วย พร้อมระบุว่า ให้ตูนออกไปพบข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ที่มารอต้อนรับ ซึ่งมากกว่าที่มารอต้อนรับตนเองอีก

ด้านนายอาทิวราห์ กล่าวว่า โครงการเริ่มจากจุดเล็กๆ จนขยายกว้างขึ้น ซึ่งมาถึงวันนี้ได้ก็เพราะคนไทยทุกคน และจากจุดเริ่มต้นวิ่งตั้งแต่ อ.เบตง จ.ยะลาขึ้นมา ก็เห็นแต่รอยยิ้มและความประทับใจ เช่น เด็กบางคนนำกระปุกออมสินมามอบให้ ทำให้ได้เห็นจิตใจในการให้ของคนไทย ซึ่งส่วนตัวอยากให้ทุกคนได้ร่วมบริจาค เพื่อทุกคนจะได้มีส่วนร่วม

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้มอบซองใส่เงินบริจาคในนามส่วนตัวให้กับตูน พร้อมกับของที่ระลึกให้กับทีมงาน และกล่าวทักทายทีมงานอย่างเป็นกันเอง รวมถึงสั่งการให้หมอ พยาบาล ดูแลตูนและทีมงานเป็นอย่างดี นอกจากนี้ นายกฯ ยังมอบกล่องบริจาคเงินของทำเนียบฯ ที่ข้าราชการ รวมถึงรัฐมนตรีส่วนหนึ่งร่วมบริจาค ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้มอบเงินบริจาคส่วนตัวให้กับตูนด้วยเช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ