ศปถ.สรุปอุบัติเหตุ 7 วันเทศกาลสงกรานต์ 61 เสียชีวิต 418 ราย สาเหตุหลักจากเมาแล้วขับ

ข่าวทั่วไป Wednesday April 18, 2018 10:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย เป็นประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนน ประจำวันที่ 17 เม.ย.61 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์ "ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร" พบว่า เกิดอุบัติเหตุ 307 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 26 ราย ผู้บาดเจ็บ 336 คน

สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด 27.69% ดื่มแล้วขับ 25.73% และตัดหน้ากระชั้นชิด 18.89% ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ 82.35% รถปิคอัพ 8.05 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง 66.45% บนถนนกรมทางหลวง 42.35% ถนนใน อบต./หมู่บ้าน 29.64% ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01-20.00 น. คิดเป็น 29.32% ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,029 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 65,242 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 726,847 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 146,589 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 39,572 ราย ไม่มีใบขับขี่ 37,779 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (15 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ สุพรรณบุรี (5 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (16 คน)

ทั้งนี้ส่งผลให้อุบัติเหตุทางถนนสะสม 7 วัน (11-17 เม.ย.61) เกิดอุบัติเหตุ 3,724 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 418 ราย ผู้บาดเจ็บ 3,897 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 4 จังหวัด ได้แก่ ระนอง สมุทรสงคราม หนองคาย และหนองบัวลำภู จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (133 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา (20 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (142 คน) สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ 40.28% ขับรถเร็วเกินกำหนด 26.50% ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ 79.85% รถปิคอัพ 7.17% ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง 64.66% ถนนใน อบต./หมู่บ้าน 37.57% บนถนนกรมทางหลวง 37.51% ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01-20.00 น.

รมช.มหาดไทย กล่าวว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 พบว่า สาเหตุหลักของอุบัติเหตุทางถนนยังคงเกิดจากการดื่มแล้วขับ และขับรถเร็ว รวมถึงผู้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นกลุ่มที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 79.85% ซึ่ง ศปถ.ได้ประสานจังหวัดบูรณาการสร้างความปลอดภัยทางถนนและต่อเนื่องตลอดทั้งปี ในรูปแบบการประสานพลังประชารัฐวางกลไกการบริหารจัดการอุบัติเหตุครอบคลุมทุกปัจจัยเสี่ยงทั้ง คน รถ ถนน และสิ่งแวดล้อม รวมถึงบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะพฤติกรรมเสี่ยงดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว การไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย และรถจักรยานยนต์ไม่ปลอดภัย อีกทั้งวางแนวทางการสร้างความปลอดภัยทางถนนในระดับพื้นที่ผ่านกลไกของชุมชน และสถาบันครอบครัว โดยผลักดันการจัดทำแผนชุมชนด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเป็นระบบ ตลอดจนสร้างการรับรู้และความปลอดภัยทางถนนแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย

ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า แม้จะสิ้นสุดการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 แล้ว ศปถ.โดยความร่วมมือของกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงมุ่งสร้างความปลอดภัยทางถนน อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีผ่านการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนอย่างเข้มแข็ง โดยได้กำชับให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถอดบทเรียน ตรวจสอบ และวิเคราะห์ข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนน เพื่อให้ทราบถึงสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุในเชิงลึก รวมทั้งค้นหาปัญหาอุปสรรคและปัจจัยความสำเร็จในการลดอุบัติเหตุทางถนนในระดับพื้นที่ โดยให้ความสำคัญในประเด็นอุบัติเหตุจากการดื่มแล้วขับ และการขับรถเร็ว รวมถึงพฤติกรรมเสี่ยง ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ง่วงแล้วขับ เพื่อนำไปสู่การกำหนดมาตรการและแนวทางที่เหมาะสมกับสภาพปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในแต่ละพื้นที่ นอกจากนี้ให้จังหวัดเร่งประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักและจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนนที่ครอบคลุมทุกช่องทางสื่ออย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนในสังคมไทยอย่างยั่งยืน

ขณะที่นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันฯ ในฐานะเลขานุการ ศปถ. กล่าวว่า ปภ.จะได้ประสาน ศปถ.จังหวัดและกรุงเทพมหานครดำเนินการตรวจสอบข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 ที่ครอบคลุมทั้งจำนวนอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บ รวมถึงข้อมูลผลการวิเคราะห์สภาพปัญหาและปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนในแต่ละพื้นที่เพื่อจัดทำเป็นฐานข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนในภาพรวม สำหรับนำไปใช้ประกอบการกำหนดนโยบายมาตรการและแนวทางการสร้างความปลอดภัยทางถนนในระยะยาว เพื่อสร้างให้ถนนทุกสายเป็นเส้นทางแห่งความปลอดภัยอย่างยั่งยืน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ