นายกฯเยือนราชอาณาจักรภูฏานระหว่าง 19-20 ก.ค. หวังกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือทุกมิติ

ข่าวทั่วไป Thursday July 19, 2018 08:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภารกิจด้านต่างประเทศของนายกรัฐมนตรี ว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเดินทางเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 19-20 กรกฎาคม 2561 ซึ่งเป็นการตอบรับคำเชิญของดาโช เชริง โตบเกย์ นายกรัฐมนตรีภูฏาน เมื่อครั้งเยือนไทยและเข้าพบหารือกับนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีจะใช้โอกาสนี้กระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทย-ภูฏาน ให้มีความแน่นแฟ้นในทุกมิติ โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน การท่องเที่ยว สาธารณสุข และการพัฒนาประเทศตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

โดยวันนี้ (19 ก.ค.) เวลา 07.55 น. นายกรัฐมนตรีและภริยา พร้อมด้วยคณะเดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเดินทางถึงท่าอากาศยานพาโร เมืองพาโร ราชอาณาจักรภูฏาน ในเวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เมื่อเดินทางถึงนายกรัฐมนตรีจะเดินต่อไปยังไปยังพระราชวังทาชิโช โดยขบวนเกียรติยศแบบพื้นเมือง (Chipdrel) เพื่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรภูฎาน ณ พระราชวังทาชิโช

หลังจากนั้นในช่วงบ่าย เวลา 16.45 น. นายกรัฐมนตรีพบหารือกับนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรภูฏาน ณ สำนักนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรภูฏาน ภายในอาคารรัฐสภา และช่วงค่ำในวันเดียวกันนี้ นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรภูฏานจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรี และคณะ ณ อาคารจัดเลี้ยง สำนักนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรภูฏาน

สำหรับในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) ช่วงเช้า นายกรัฐมนตรีและภริยาเดินทางไปยังเจดีย์อนุสรณ์สถานแห่งชาติ (National Memorial Chorten) เพื่อประกอบพิธีจุดตะเกียงตามธรรมเนียมพื้นเมือง และเยี่ยมชมร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (One Gewog One Product: OGOP) ก่อนจะเดินทางกลับประเทศไทย ในเวลา 16.00 น. และเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในเวลา 21.50 น.

อนึ่ง ไทยและราชอาณาจักรภูฎานสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2532 ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดทั้งในระดับราชวงศ์ รัฐบาล และประชาชน รวมทั้งยังมีความเชื่อมโยงทางพุทธศาสนา สังคมและวัฒนธรรม โดยเฉพาะสถาบันกษัตริย์เป็นจุดเชื่อมโยงจิตใจของประชาชนทั้งสองประเทศด้วย ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ส่วนใหญ่อยู่ในบริบทของความร่วมมือทางวิชาการ โดยภูฏานมองไทยเป็นแบบอย่างในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่สอดคล้องกับทฤษฎีความสุขมวลรวมประชาชาติ (Gross National Happiness - GNH) ของภูฏาน

สำหรับโครงการความร่วมมือที่สำคัญ อาทิ โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โครงการผลิตภัณฑ์ OGOP (One Gewog One Product) ของภูฏาน และโครงการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบทางการเกษตรในพระราชดำริของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ณ เมืองพูนาคา ซึ่งได้น้อมนำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้เป็นต้นแบบ สำหรับการออกแบบโครงการด้านระบบชลประทานและการบริหารจัดการน้ำสำหรับโครงการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ฯ ด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ