ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำ เตือนภัย‘เอลนินโญ่’หวั่นปีหน้าน้ำแล้ง หลังฤดูฝนหยุดตกเร็วขึ้น แนะจำเป็นต้องมียุทธศาสตร์ระยะยาวดูแล

ข่าวทั่วไป Tuesday August 14, 2018 15:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุจริต คูณธนกลุวงศ์ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำ ภาควิชาวิศวกรรมแหล่งน้ำ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า สาเหตุที่ประเทศไทยมีฝนตกเร็วขึ้นเป็นผลจากปรากฏการณ์ลานินญาที่ต่อเนื่องมาจากปีที่แล้ว และกำลังจะหมดลงประมาณช่วงกลางของฤดูฝน แต่ภัยที่จะเข้ามาคือมีโอกาสจะเกิดเป็นเอลนินโญปานกลางสูง ทำให้แนวโน้มฝนในปีนี้มีโอกาสจะหยุดตกเร็วขึ้น แต่เนื่องจากน้ำในเขื่อนยังมีมากอยู่ ไทยจะไม่ประสบภัยแล้งเหมือนปี 2557–2558 แต่จะมีผลคล้ายปี 2555 แต่ก็ต้องเฝ้าระวังในเรื่องของบางพื้นที่ที่ยังไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ ก็อาจจะเกิดภัยแล้งเล็กๆ ได้ ทำให้เราจำเป็นต้องมียุทธศาสตร์ระยะยาวในการดูแลทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง

"สิ่งที่เกิดขึ้นคือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Clmate Change) ทำให้ฝนจะมาเร็วหรือมาช้า ซึ่งจะเห็นว่าฝนปีนี้มาเร็วกว่าปกติและมีปริมาณฝนตกหนักค่อนข้างมาก โดยช่วงต้นฤดูฝนจะยังคงมีฝนตกอยู่ แต่หลังจากเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้ไปแล้วฝนจะเริ่มตกน้อยลงจากปกติจะต้องไปสิ้นสุดประมาณเดือน ต.ค."

เรื่องของน้ำท่วมในปีนี้ไม่น่าเป็นห่วงมากนัก แต่อาจจะต้องห่วงเรื่องน้ำแล้งที่อาจเกิดขึ้นได้ในปีหน้า เพราะมีแนวโน้มกลับมาเป็นเอลนินโญ อากาศจะร้อนขึ้นอีกครั้ง แต่คาดว่าสถานการณ์แล้งจะอยู่ในช่วงสั้นๆ ประมาณ 3 – 6 เดือน จากนั้นสถานการณ์ก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ สาเหตุเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของน้ำทะเลในช่วงนี้มีการเคลื่อนตัวผิดปกติ น้ำทะเลด้านล่างเริ่มอุ่นขึ้น

"ข้อค้นพบจากผลการศึกษาวิจัยสถานการณ์น้ำของประเทศไทยย้อนหลังในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาภายใต้โครงการรายงานการวิเคราะห์สถานการณ์น้ำของประเทศไทย : ทรัพยากรน้ำกับการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ทำให้เห็นว่าแต่เดิมมักพูดว่าน้ำแล้ง น้ำท่วมจะสลับกันมาทุก 3 ปี แต่ปัจจุบันในปีเดียวกันมีทั้งแล้งและฝน จะเห็นชัดว่า สถานการณ์ไม่ได้เป็นแบบเดิมแล้ว แนวโน้มธรรมชาติต่อไปจะเกิดขึ้นแบบนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น ในปีนี้ที่คาดว่าน้ำอาจท่วมเพราะฝนมาเร็วและตกมาก แต่พอปลายฝนสถานการณ์จะเริ่มเปลี่ยนเป็นแล้งได้ เพราะลักษณะของสภาพภูมิอากาศมีความแปรปรวนที่รวดเร็วมากขึ้น เป็นการเปลี่ยนแปลงจากภาวะแปรปรวนแบบ 2-3 ปีครั้ง มาเป็นภาวะความแปรปรวนแบบฉบับพลันแทน จึงมีความเป็นไปได้ที่แม้กระทั่งอาจเกิดน้ำท่วมและน้ำแล้งภายในปีเดียวกัน" นายสุจริต กล่าว

ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในระยะหลายปีหลังมานี้ เริ่มปรากฏให้เห็นชัดมากขึ้นจะสังเกตเห็นว่าเกิดการผิดปกติของสภาพอากาศบ่อยมากขึ้น เช่น ฤดูฝนยาวขึ้นและปริมาณฝนที่ตกหนักมากขึ้น ฤดูร้อนก็ยาวนาน และอากาศที่ร้อนมากขึ้น ขณะที่ฤดูหนาวเริ่มสั้นลง บางพื้นที่ฝนตกน้ำท่วมสลับกับร้อนที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกอยู่ทุกวันนี้ อาจมีสาเหตุจากภาวะโลกร้อนที่ส่งผลให้สภาพอากาศแปรปรวน ซึ่งรวมถึงประเทศไทยที่เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ