ม.รังสิต แนะรัฐเร่งหนุนวิจัยกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ แต่หากเพื่อวัตถุประสงค์อื่นต้องพิจารณาให้รอบคอบ

ข่าวทั่วไป Sunday November 4, 2018 14:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้กล่าวถึงการนำกัญชามาวิจัยเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ว่า เป็นเรื่องที่ภาครัฐควรให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เนื่องจากมีศักยภาพสูงในการพัฒนาเป็นยารักษาโรค มีงานวิจัยทางการแพทย์ยืนยันถึงประโยชน์ของกัญชา แต่ยังจำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันให้หนักแน่นมากยิ่งขึ้น เพราะกัญชามีสารที่มีผลต่อจิตประสาทอันเป็นคุณสมบัติของสารเสพติดที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้หากบริโภคหรือเสพเกินขนาด

ทั้งนี้ หลายประเทศทั่วโลกผ่อนปรนกฎหมายอนุญาตให้ประชาชนใช้กัญชาทางการแพทย์ หรือเพื่อสันทนาการได้อย่างถูกต้อง แต่กัญชายังถือเป็นสิ่งเสพติดให้โทษประเภท 5 ในไทย ซึ่งผู้เสพต้องระวางโทษปรับ และ/หรือ จำคุก ส่วนรัฐบาลเพิ่งเริ่มหาทางแก้กฎหมายเปิดช่องให้ศึกษาวิจัยพืชเสพติดได้อย่างถูกต้อง แม้ผู้ป่วยไทยบางส่วนลักลอบใช้กัญชาเพื่อรักษาโรคมะเร็งโดยไม่ต้องพึ่งพาเคมีบำบัดหรือฉายแสงเท่านั้น ซึ่งมีผลกระทบข้างเคียงต่อร่างกายมาก ในเบื้องต้นจึงควรมีการแก้ไขกฎหมายให้สามารถนำสารสกัดจากกัญชามาใช้เป็นยารักษาโรคได้อย่างเต็มที่ สามารถครอบครองกัญชาเพื่อใช้ประโยชน์ในการวิจัยทางการแพทย์ รัฐบาลสามารถออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขให้สารสกัดจากกัญชาไม่ถือเป็นยาเสพติดและควบคุมให้มีการใช้เฉพาะทางการแพทย์ และพิจารณาแก้ไขพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ เพื่อปลดล็อคให้มีการใช้สารสกัดจากกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพได้ มีรายงานทางการแพทย์ระบุว่า สารสกัดจากกัญชาสามารถรักษาอาการได้อย่างน้อย 5 กลุ่มโรคดังนี้ รักษาอาการคลื่นไส้อาเจียนในผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ให้เคมีบำบัด โรคลมชักในเด็ก อาการเจ็บปวดรุนแรง อาการทางจิตประสาทเพื่อให้คลายเครียดและสงบ ปลอกประสาทอักเสบ

ส่วนในระยะยาว ควรออกกฎหมายเฉพาะเกี่ยวกับกัญชาโดยระบุให้เป็นพืชที่ใช้ทำเป็นยาและสามารถเป็นพืชเศรษฐกิจ รวมทั้งสามารถใช้ประโยชน์อื่นๆได้ มีการคาดการณ์ว่า ตลาดกัญชาเพื่อการแพทย์ทั่วโลกอาจมีมูลค่าสูงถึง 55,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.9 ล้านล้านบาท) ภายในปี ค.ศ. 2025 ขณะนี้มูลค่าผลิตภัณฑ์กัญชาทั่วโลกอยู่ที่ 4.6 ล้านล้านบาท กระแสการเคลื่อนไหวให้กัญชาเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายว่า เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรช่วยกำหนดแนวทางที่เหมาะสมว่า อะไรคือประโยชน์สูงสุดต่อสังคม คุณภาพชีวิตของผู้คน และเศรษฐกิจ

นายอนุสรณ์ กล่าวถึงผลทางเศรษฐกิจจากกัญชาถูกกฎหมาย และมีการใช้เพื่อสันทนาการหรือความบันเทิงว่า หลังรัฐแคลิฟอร์เนียอนุญาตเสพกัญชาเพื่อความบันเทิงหรือสันทนาการ มีการคาดการณ์ว่าจะมีเงินสะพัดในอุตสาหกรรมกัญชาในสหรัฐมากถึง 5,100 ล้านดอลลาร์ ในปี ค.ศ. 2018 และจะให้ให้อุตสาหกรรมนี้เติบโตถึง 3 เท่าในช่วง 10 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ อุตสาหกรรมกัญชาถูกกฎหมายจะสร้างรายได้กว่า 40,000 ล้านดอลลาร์ และสร้างงานกว่า 400,000 ตำแหน่งในสหรัฐภายในปี ค.ศ.2021 อีกทั้งรัฐบาลจะเก็บภาษีได้ 4,000 ล้านดอลลาร์ ภายใน 3 ปี

อุตสาหกรรมกัญชาเป็นธุรกิจใหญ่ที่นำรายได้มหาศาลเข้าสู่แคนาดามานับทศวรรษ หลังมีการอนุญาตให้นำกัญชามาใช้รักษาโรคได้ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ในแคนาดามีบริษัทผลิตและจำหน่ายกัญชารายใหญ่สองบริษัท คือ บริษัท คานาปี โกร์ธคอร์ป และบริษัท ออโรร่า แคนนาบิส โดยที่บริษัท ออโรร่า แคนนาบิสได้มีการ สร้างโรงเรือนใหม่ใหญ่ถึง 800,000 ตารางฟุต ที่จะมีกำลังผลิตกว่า 100 ตันต่อปี นับว่าเป็นพื้นที่ปลูกกัญชาเชิงพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกรองรับการเปิดกว้างมากขึ้นในการใช้กัญชา

ทั้งนี้ สถิติจากสำนักงบประมาณรัฐสภาแคนาดา ระบุว่า ปัจจุบันราคาจำหน่ายกัญชาแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ เช่นในเมืองควิเบค ราคากรัมละ 7.31 ดอลลาร์แคนาดา ขณะที่ในเมืองอื่นๆทางตอนเหนือของประเทศ ราคาจำหน่ายกรัมละ 13.17 ดอลลาร์แคนาดา มีการคาดการณ์ว่า เมื่อ พ.ร.บ.กัญชามีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ รัฐบาลแคนาดาจะมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีกัญชาเพิ่มขึ้น สูงสุดถึงปีละ 5,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา แต่บางสำนักก็คาดว่าอาจเก็บได้เพียงราว 600 ล้านดอลลาร์เท่านั้น

ประเทศสเปนอนุญาตให้ประชาชนสามารถใช้และปลูกเองภายในบ้านได้ตามจำนวนที่กำหนด แต่ห้ามนำออกมาขายและซื้อ พร้อมสามารถพกติดตัวได้สูงสุด 40 กรัม ขณะที่กรุงปรากของสาธารณรัฐเช็ค ก็เป็นอีกเมืองที่สามารถปลูกกัญชาในครอบครองได้ 5 ต้น การเสพกัญชาอย่างถูกกฎหมายอาจช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวได้ อย่างเช่นในประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่มีชื่อเสียงด้านการเสพกัญชาถูกกฎหมาย นำมาสู่การดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ต้องการเสพกัญชา ช่วยผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศให้เติบโต ขณะที่ประชาชนมีความคิดเห็นที่ดีต่อกัญชา โดยมองว่ามีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่และสุรา นักท่องเที่ยวที่มาเยือนกรุงอัมสเตอร์ดัมส์ ต้องการใช้บริการร้านกาแฟ ที่อนุญาตให้บุคคลที่อายุมากกว่า 18 ปีสูบกัญชาได้อย่างถูกกฎหมาย อีกทั้งยังสามารถซื้อกัญชาได้สูงสุด 5 กรัม โดยร้านกาแฟประเภทนี้ มี 200 กว่าร้านในกรุงอัมสเตอร์ดัมส์

อย่างไรก็ตาม หากมีการเสพกัญชาเพื่อสันทนาการได้อย่างถูกกฎหมายและไม่สามารถกำกับให้ดีพอ มีการแพร่ระบาดจนไม่สามารถควบคุมได้ มีการเสพเกินขนาดแล้วเกิดปัญหาทางด้านสุขภาพ ย่อมมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและครอบครัวของผู้เสพ และแน่นอนย่อมส่งผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยให้รอบคอบก่อนจะเปิดให้กัญชาเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดให้มีการเสพกัญชาเพื่อสันทนาการ

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ในกรณีของประเทศไทย หากจะมีการเปิดเสรีเรื่องกัญชาเช่นในบางประเทศต้องคิดให้รอบคอบ เนื่องจากประเทศเรามีปัญหาในการบังคับใช้กฎหมาย หากการบังคับใช้กฎหมายไม่ดี การกำกับควบคุมไม่ดี อาจนำมาสู่ผลเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่าผลดี ขณะเดียวกัน การไม่เปิดเสรีแต่มีความต้องการในการใช้กัญชาไม่ว่าด้วยวัตถุประสงค์ใดๆ ที่ไม่เป็นอันตราย ย่อมทำให้เกิดการลับลอบการใช้และช่องทางทุจริตคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ