(เพิ่มเติม) ครม.ปลดล็อคให้นำกัญชาและกระท่อมมาใช้ทางการแพทย์เพื่อการรักษาโรค

ข่าวทั่วไป Tuesday November 13, 2018 16:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฎิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ซึ่ง รมว.สาธารณสุข ได้รับมาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อนำมาพิจารณาว่ามีข้อแตกต่างจากร่าง พ.ร.บ.ที่รัฐบาลเสนออย่างไร

"กฎหมายฉบับนี้จะเป็นการปลดล็อคเฉพาะในส่วนผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมอและคนไข้ การพกพาในจำนวนจำกัดมีข้อยกเว้น เป็นไปเพื่อการรักษาโรคเท่านั้น...ไม่ได้หมายความว่าใครจะไปปลูกไว้หลังบ้านก็ได้" นายพุทธิพงษ์ กล่าว

โดยกฎหมายดังกล่าวมีสาระสำคัญ คือ ให้สามารถนำเข้าหรือส่งออกยาเสพติดประเภท 5 (กัญชา และกระท่อม) ได้ในกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ทางราชการโดยได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต, กรณียกเว้นให้มียาเสพติดประเภท 5 ในครอบครองไม่เกินจำนวนที่จำเป็นเพื่อใช้รักษาโรคเฉพาะหรือใช้ปฐมพยาบาลหรือกรณีฉุกเฉิน, ให้ใช้ยาเสพติดประเภท 5 ได้หากกระทำเพื่อเป็นการรักษาโรคโดยคำสั่งของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบโรคศิลป์ หรือเพื่อศึกษาวิจัย, กำหนดให้ผู้รับอนุญาตสามารถจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ได้เฉพาะสถานที่ที่ระบุไว้เท่านั้น

กฎหมายดังกล่าวยังให้อำนาจ ป.ป.ส.ในการกำหนดเขตพื้นที่เพื่อทดลองปลูกพืชที่ให้ผลผลิตเป็นยาเสพติดประเภท 5 ผลิตและทดสอบยาเสพติดประเภท 5 ในพื้นที่ที่กำหนด, ให้ รมว.สาธารณสุข โดยความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ป.ป.ส.ประกาศให้ท้องที่ใดสามารถเสพกระท่อมได้โดยถือไม่เป็นความผิดตามกฎหมายนี้

"เนื่องจาก ครม.มีความเห็นห่วง จึงกำหนดให้กระทรวงสาธารณสุขควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นเวลา 5 ปี หลังจากนั้นค่อยมาพิจารณาปรับปรุงอีกที" นายพุทธิพงษ์ กล่าว

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ เพื่อให้สามารถนำกัญชามาใช้ประโยชน์ในการศึกษาที่จะใช้เป็นยารักษาโรค โดยกัญชายังถือเป็นยาเสพติดประเภท 5 อยู่ โดยจะมีการศึกษาในเรื่องของพื้นที่การปลูก โดยจะออกเป็นบทเฉพาะกาลระยะ 5 ปี เพื่อทดลองการดำเนินการ ซึ่งรายละเอียดนี้จะส่งกลับให้ทาง สนช.พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยคาดว่าจะออกเป็นกฎหมายมีผลบังคับใช้ทันในรัฐบาลชุดนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ