(เพิ่มเติม) กรมป้องกันฯ เผยเร่งช่วยเหลือนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี-ตรัง ประสบภัยน้ำท่วม

ข่าวทั่วไป Tuesday December 18, 2018 11:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 15-18 ธันวาคม 2561 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ในพื้นที่ 3 จังหวัด รวม 27 อำเภอ 148 ตำบล 806 หมู่บ้าน ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบ 48,558 ครัวเรือน 154,047 คน สูญหาย 1 ราย ประกอบด้วย

นครศรีธรรมราช เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 19 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอชะอวด อำเภอพิปูน อำเภอช้างกลาง อำเภอสิชล อำเภอนบพิตำ อำเภอท่าศาลา อำเภอพระพรหม อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอลานสกา อำเภอพรหมคีรี อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอขนอม อำเภอทุ่งสง อำเภอปากพนัง อำเภอฉวาง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเชียรใหญ่ และอำเภอหัวไทร รวม 121 ตำบล 691 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 45,244 ครัวเรือน 142,800 คน สูญหาย 1 ราย ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

สุราษฎร์ธานี เกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าฉาง อำเภอไชยา อำเภอเกาะสมุย อำเภอเมืองสุราษฎร์ อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอดอนสัก และอำเภอท่าชนะ รวม 25 ตำบล 110 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,123 ครัวเรือน 10,651 คน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

ตรัง เกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่อำเภอรัษฎา รวม 2 ตำบล 5 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 191 ครัวเรือน 596 คน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

ทั้งนี้ กรมป้องกันฯ ร่วมกับจังหวัด ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยสนับสนุนการระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว รวมถึงแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น นอกจากนี้ ได้กำชับจังหวัดเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนได้เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ตามแผนงานที่วางไว้ โดยมีการจัดเครื่องมือและกำลังคนลงไปในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด คือ จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 19 อำเภอ, จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 7 อำเภอ และจังหวัดตรัง จำนวน 2 อำเภอ ซึ่งแนวโน้มระดับน้ำขณะนี้เริ่มลดลง และถือเป็นเรื่องปกติในพื้นที่ภาคใต้ที่ช่วงนี้จะมีมรสุมเข้ามาหลายครั้ง ซึ่งปีครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 และคาดว่าหลังจากนี้จะมีมรสุมเข้ามาอีก ซึ่งอาจจะเกิดน้ำท่วมในบางพื้นที่

"เจ้าหน้าที่ได้เตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือ ขณะนี้ได้ให้ความช่วยเหลือขั้นพื้นฐาน โดยจัดรถกู้ภัย เรือ เครื่องปั่นไฟ เครื่องทำน้ำดื่ม เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนในด้านการสัญจร น้ำดื่ม และอาหารการกิน" พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

สำหรับมาตรการเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยนั้นต้องรอสำรวจความเสียหายหลังน้ำลด แต่จะเป็นไปตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ ทั้งกรณีบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายและพื้นที่ทำการเกษตร ทั้งนี้คาดว่าสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในปีนี้จะไม่รุนแรงเท่าปีที่ผ่านมาเนื่องจากปริมาณน้ำน้อยกว่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ