นายกฯ นัดหารือบูรณาการแก้ปัญหาฝุ่นละอองเกินมาตรฐานพรุ่งนี้ พร้อมสั่งกวดเข้มรถควันดำ

ข่าวทั่วไป Tuesday January 15, 2019 15:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองสูงเกินมาตรฐานในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลว่า ในพรุ่งนี้จะมีการประชุมหารือทุกหน่วยงานเพื่อบูรณาการแก้ปัญหาที่มีความเหมาะสม ไม่สร้างผลกระทบต่อด้านอื่นๆ

ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหานี้ แต่ขอให้ประชาชนอย่าตกเป็นเครื่องมือของคนที่นำประเด็นนี้มาเคลื่อนไหว และไม่อยากให้ใครมาวิพากวิจารณ์ทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งต้องยอมรับว่าปัญหานี้เกิดขึ้นทุกปีแต่ต้องหามาตรการแก้ปัญหาให้ได้ตามระยะเวลาตามขั้นตอนที่เหมาะสม

นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ถือว่ามีขนาดเล็ก สามารถเข้าไปในร่างกายและกระแสเลือดได้ นอกจากนี้ยังมีฝุ่นละออง PM10 ที่เกิดขึ้นเป็นปกติในปัจจุบัน แต่หากเปรียบเทียบปัญหาดังกล่าวกับต่างประเทศ เช่น อังกฤษ ที่มีค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานกว่า 40 เมือง ซึ่งทุกประเทศก็พยายามแก้ปัญหาดังกล่าวอยู่ ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดฝุ่นละอองมากที่สุด คือ การเผาไหม้เชื้อเพลิงของรถยนต์ ซึ่งในประเทศไทยมีปัญหาเรื่องรถติดด้วย

"วันนี้ได้สั่งการทั้งกรุงเทพมหานคร กระทรวงคมนาคม ให้มีการตรวจสอบรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่ยังคงใช้น้ำมันแบบเดิมอยู่ให้มีการปรับมาใช้น้ำมันดีเซล B20 ซึ่งกระทรวงพลังงานได้เร่งผลิต B20 ให้มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการ จึงขอความร่วมมือในการปรับเปลี่ยนการใช้น้ำมัน และต้องมีการกวดขันยานพาหนะที่ปล่อยควันดำ หากพบจะต้องหยุดวิ่ง โดยเชื่อว่าจะสามารถลดปริมาณฝุ่นละอองได้ในระดับหนึ่ง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ส่วนปัญหาฝุ่นละอองที่มาจากการก่อสร้าง หรือการเผาไหม้ในพื้นที่การเกษตรนั้น ได้กำชับทุกหน่วยงานให้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องมีมาตรการลดผลกระทบซึ่งต้องมาจากความร่วมมือของทุกคน ส่วนมาตรการฉีดพ่นละอองน้ำเป็นการทำให้ฝุ่นละอองตกลงมาบนพื้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อเสนอให้มีการหยุดเรียนหรือหยุดการก่อสร้างว่า ในขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดการเรียนการสอน แต่หากถึงจุดที่มีความเสี่ยงมากก็เป็นเรื่องที่กระทรวงศึกษาธิการต้องพิจารณาดำเนินการ ขณะเดียวกันขอความร่วมมือโครงการก่อสร้างต่างๆ ให้ช่วยลดฝุ่นละออง ซึ่งได้รับความร่วมมือในระดับหนึ่ง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องหาสาเหตุของปัญหาให้เจอก่อนที่จะวางมาตรการแก้ปัญหา เพราะเมื่อรู้ว่าปัจจัยหลักเกิดจากการเผาไหม้เครื่องยนต์ก็จะต้องมีมาตรการที่ไม่สร้างผลกระทบกับการคมนาคมขนส่งและการส่งขนสินค้าหรือเศรษฐกิจโดยรวม ควบคู่กับการดูแลด้านสาธารณสุข ความปลอดภัยและสุขภาพของประชาชน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ