กรมประมงประสานตำรวจสากลจับกุมเรือประมงไทยทำผิดกฎหมายน่านน้ำโซมาเลีย

ข่าวทั่วไป Wednesday January 16, 2019 10:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง ร่วมกับพล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ประธานอนุกรรมการตรวจสอบและติดตามการบังคับใช้กฎหมาย ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (INTERPOL) หรือตำรวจสากล ได้ออกหนังสือขอความร่วมมือจากประเทศสมาชิกให้แจ้งเบาะแสเรือประมงที่ใช้ชื่อว่าเรือ O.SIRICHAINAWA 15 หรือ OR. SIRICHAINAWA 15 หลังจากทางสหภาพยุโรป (EU)ใช้เครื่องบินตรวจการณ์ทางอากาศและพบเรือประมงลำดังกล่าวทำประมงบริเวณอ่าวเอเดนในน่านน้ำของประเทศโซมาเลียจึงได้แจ้งเตือนมายังประเทศไทยเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา ในฐานะรัฐเจ้าของธง เนื่องจากในอดีตเคยมีเรือประมงสัญชาติไทย ชื่ออ.ศิริชัยนาวา 15 ทำการประมงในน่านน้ำประเทศเยเมน

จากการตรวจสอบพบว่าเรือประมงไทย ชื่อ อ.ศิริชัยนาวา 15 มีผู้ครอบครองเป็นคนไทย และเคยได้ยื่นแจ้งเรื่องต่อกรมเจ้าท่าว่าเรือประมงลำดังกล่าวได้จมลงในท้องที่จังหวัดสมุทรสาคร และไม่สามารถหาซากเรือมายืนยันได้ ซึ่งกรมเจ้าท่าได้ดำเนินการเพิกถอนทะเบียนเรือลำดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2558 ดังนั้นหากเรือประมงที่สหภาพยุโรปตรวจพบเป็นเรือ อ.ศิริชัยนาวา 15 จะถือเป็น"เรือประมงไร้สัญชาติ"ตามอนุสัญญาว่าด้วยกฎหมายทะเล 1982 (UNCOLS 1982) และหากนำเรือดังกล่าวไปทำการประมงจะถือว่าเป็นเรือประมงที่ผิดกฎหมาย (IUU Vessle) และนอกจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศไทยได้ร่วมกันพิจารณาคำให้การของเจ้าของเรือประมงลำดังกล่าว หากพบว่าเป็นการแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานจะพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายอาญาต่อไป

เพื่อเป็นการให้ความร่วมมือกันในการป้องกันเรือประมงผิดกฎหมายล่าสุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)ได้แจ้งข้อมูลดังกล่าวไปยังตำรวจสากลและเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2562 ทางตำรวจสากลได้ออกหนังสือแจ้งจับเรือประมง O.SIRICHAINAWA 15 หรือ OR. SIRICHAINAWA 15 แก่หน่วยงานในประเทศสมาชิก ได้แก่ เจ้าหน้าที่หน่วยงานท่าเรือ ยามชายฝั่ง กองทัพเรือ ตำรวจทางทะเล ศุลกากร ด่านตรวจคนเข้าเมืองหรือด่านควบคุมชายแดน หากหน่วยงานใดพบเรือลำดังกล่าวเข้าทำการประมงในน่านน้ำหรือนำสัตว์น้ำขึ้นท่า สามารถเข้าจับกุมพร้อมตรวจค้นได้ทันที

การดำเนินการร่วมกับสหภาพยุโรป และตำรวจสากลในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการที่จะให้ความร่วมมือกับทุกประเทศ ทุกองค์กร ในการต่อต้านการทำการประมงผิดกฎหมาย ภายใต้ความรับผิดชอบของ"รัฐ"โดยมีเป้าหมายเพื่อความมั่นคงและยั่งยืนทางการประมงเป็นสำคัญ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ