ผู้ว่าฯ กทม.ปล่อยโดรนฉีดพ่นละอองน้ำในอากาศช่วยดูดจับฝุ่นละออง

ข่าวทั่วไป Thursday January 31, 2019 14:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ประธานในพิธีปล่อยขบวนหน่วยปฏิบัติการแก้วิกฤติมลพิษทางอากาศในพื้นที่วิกฤติ 6 จุดว่า กทม.ได้ประสานจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดชัยภูมิ เพื่อขอความร่วมมือชมรมโดรนเพื่อการเกษตรจากทั้งสองจังหวัดขึ้นบินฉีดพ่นละอองน้ำในอากาศช่วยดูดจับฝุ่นละออง โดยโดรนที่นำมาในวันนี้ปกติจะใช้ฉีดนาข้าว ไร่อ้อย ซึ่งน้ำจะมีส่วนผสมของสารเคมีและกากน้ำตาล โดยในส่วนของกรุงเทพมหานครต้องการใช้เพียงน้ำสะอาด ทำให้มีความจำเป็นต้องล้างเครื่องโดรนให้สะอาด ทำให้ช่วงเช้าวันนี้มีโดรนที่พร้อมมาบินก่อน 5 ลำ และจะทยอยมาเพิ่มเรื่อยๆ เนื่องจากโดรนทุกตัวต้องล้างทำความสะอาดและผ่านการตรวจสอบความปลอดภัย

ทั้งนี้ โดรนมีกำหนดขึ้นบิน 2 วัน คือ วันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. 62 โดยจะตั้งฐานการบิน 6 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 ฐานบินบริเวณลานคนเมือง จุดที่ 2 ฐานบินบริเวณวัดพระศรีมหาธาตุ (บางเขน) จุดที่ 3 ฐานบิน ม.เกษตร จุด 4 ฐานบินสวนจตุจักร ทำการบินบริเวณห้าแยกลาดพร้าว จุด 5 ฐานบินสวนลุมพินี ทำการบินบริเวณอนุสาวรีย์ ร.6 และถนนพระราม 4 และจุดที่ 6 ฐานบินสะพานพระราม 9 ฝั่งพระนคร เขตบางคอแหลม

การปฏิบัติการดังกล่าวจะเป็นการลดฝุ่นละออง 3 ระดับความสูง ได้แก่ ระดับบนสุด ใช้โดรนจะบินฉีดพ่นละอองน้ำ โดยโดรนแต่ละเครื่องจะมีรัศมีทำการบินประมาณ 2 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของพื้นที่ และสามารถบรรทุกน้ำได้ประมาณ 5-10 ลิตร สำหรับขึ้นไปฉีดพ่นละอองน้ำในอากาศสูง 50 เมตรขึ้นไป ซึ่งการบินแต่ละครั้งจะสามารถบินได้ประมาณ 20 นาที จากนั้นจะต้องลงมาเปลี่ยนแบตเตอรี่และเติมน้ำสำหรับฉีดพ่น ระดับที่ 2 รถน้ำจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสำนักสิ่งแวดล้อม จะฉีดฝอยละอองน้ำขึ้นไปในอากาศ และระดับที่ 3 เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเขตพื้นที่จะกวาดและล้างทำความสะอาดตามบนพื้นจราจร ทางเท้า และที่สาธารณะทั่วไป

สำหรับเมื่อคืนที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้ดำเนินการฉีดน้ำทำความสะอาดใบไม้ในสวนสาธารณะทุกสวน เนื่องจากบริเวณใบไม้จะมีฝุ่นเกาะอยู่เป็นจำนวนมาก รวมไปถึงการล้างทำความสะอาดถนนสายหลัก นอกจากนี้ได้ประสานขอความร่วมมือไปยังเจ้าของอาคารสูงช่วยฉีดพ่นละอองน้ำ เพื่อช่วยลดปริมาณฝุ่นเป็นการร่วมมือช่วยกันคนละนิดคนละหน่อยถึงแม้จะช่วยได้ไม่มากแต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ซึ่งวันนี้กรุงเทพมหานครได้เชิญทุกภาคส่วนร่วมประชุมเพื่อหารือระดมความคิดในการแก้ปัญหาฝุ่น และขอเรียนเชิญผู้มีความรู้ในทุกภาคส่วนร่วมช่วยแสดงความคิดเห็น

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนผู้ขับขี่รถที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลที่มีสภาพเครื่องยนต์เก่าเท่าที่มีความจำเป็น เนื่องจากเครื่องยนต์ดีเซลที่มีสภาพเก่าไม่สามารถเผาไหม้เชื้อเพลิงได้หมด ซึ่งฝุ่น PM 2.5 เกิดขึ้นจากเครื่องยนต์ดีเซลมากที่สุด คือ ร้อยละ 65 อีกกว่าร้อยละ 20 เกิดจากเผาสิ่งต่างๆ ในที่โล่งแจ้ง จึงขอความร่วมมือประชาชนอย่าเพิ่งเผาขยะต่างๆ ตลอดจนเผากำจัดวัชพืชหรือไร่นาในที่โล่งแจ้ง ซึ่งจะเกิดขึ้นในเขตที่ติดกับปริมณฑลเป็นส่วนมาก นอกจากนี้กรุงเทพมหานครได้แจ้งไปยังสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ให้เข้าไปสำรวจโรงงานต่างๆ ที่จะก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศในลักษณะนี้ โดยจะมีการนำมารายงานภายในวันนี้ หากพบโรงงานไหนมีค่ามลพิษทางอากาศที่สุ่มเสี่ยง ก็จะต้องขอความร่วมมือโรงงานให้ย่นระยะในการดำเนินงานได้หรือไหม ตัวอย่างเช่น เวลาช่วง 06.00 – 09.00 น. อย่าเพิ่งเปิดเครื่องจักรได้หรือว่าช่วงเวลา 16.00 – 19.00 น. ไม่ต้องเดินเครื่องจักรเพื่อช่วยลดปริมาณฝุ่นในพื้นที่กรุงเทพฯ ต่อไป

ด้านกรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ประจำวันที่ 31 มกราคม 2562 ระบุว่า จากสภาพอุตุนิยมวิทยาที่อากาศในช่วงเช้า พื้นที่ กทม.และปริมณฑล อากาศปิด ลมสงบ ซึ่งจากสภาพเช่นนี้จะทำให้ปริมาณฝุ่นละอองสะสมได้ ส่งผลทำให้สถานการณ์ PM2.5 พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในวันนี้ 31 มกราคม 2562 ปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานทุกพื้นที่ ฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม. ) 41 พื้นที่ ดังนี้ พื้นที่ริมถนน เกินค่ามาตรฐาน 24 สถานี พื้นที่ทั่วไป เกินค่ามาตรฐาน 17 สถานี

ส่วนในวันพรุ่งนี้สภาพอากาศปิด ลมสงบ ทำให้ปริมาณฝุ่นละอองมีโอกาสสะสมมากขึ้น โดยลักษณะ เช่นนี้จะเป็นไปจนถึงวันที่ 4 ก.พ. 62


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ