(เพิ่มเติม) ผู้ว่ากทม. เดินหน้าโครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำทั่วกรุง มั่นใจระบายน้ำท่วมขังได้เร็วกว่าปีที่ผ่านมา

ข่าวทั่วไป Friday July 5, 2019 15:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังของกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างบ่อหน่วงน้ำใต้ดิน (Water Bank) บริเวณสถานีตำรวจนครบาลบางเขน โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม (Pipe jacking) ถนนพหลโยธิน บริเวณแยกเกษตรศาสตร์ และโครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำตามแนวถนนวิภาวดีรังสิต วางบ่อหน่วงน้ำใต้ดิน (Water Bank) แก้จุดเสี่ยงน้ำท่วมย่านวงเวียนบางเขน

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เนื่องจากกรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ มีความลาดชันน้อย และมีระดับต่ำกว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้น้ำไม่สามารถไหลตามธรรมชาติลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ กรุงเทพมหานครจึงได้ดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำ เช่น การก่อสร้างบ่อหน่วงน้ำใต้ดิน (Water Bank) บริเวณวงเวียนบางเขน โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม (Pipe Jacking) บริเวณถนนทรงสวัสดิ์ ถนนเยาวราช และถนนเจริญกรุง ซึ่งทั้ง 2 โครงการดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งติดตามสถานการณ์ฝนในพื้นที่จุดเสี่ยงน้ำท่วม 14 จุด และจุดเฝ้าระวังน้ำท่วม 56 จุด

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครได้เตรียมความพร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมเข้าพื้นที่ก่อนที่ฝนจะตก ขณะฝนตก และหลังฝนหยุดตก ซึ่งสำนักการระบายน้ำมีศูนย์เรดาร์ตรวจอากาศอยู่ 3 แห่ง ได้แก่ ศูนย์เรดาร์ตรวจอากาศหนองแขม ศูนย์เรดาร์ตรวจอากาศหนองบอน และศูนย์เรดาร์ตรวจอากาศหนองจอก ซึ่งศูนย์เรดาร์ดังกล่าวจะทำการตรวจจับกลุ่มเมฆฝน โดยจะทราบล่วงหน้าก่อนที่กลุ่มเมฆฝนจะเข้าพื้นที่ประมาณ 3 ชั่วโมง จากนั้นสำนักการระบายน้ำจะแจ้งเตือนผ่านระบบต่างๆ ให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เข้าพื้นที่เตรียมความพร้อมล่วงหน้าก่อนที่ฝนจะตก รวมถึงการลดระดับน้ำในคลองให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เพื่อเตรียมรองรับปริมาณฝนที่ตกลงมา

ผู้ว่ากทม. กล่าวว่า ปัจจุบันกรุงเทพมหานครได้ดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำแล้วเสร็จหลายโครงการ หากฝนตกลงมาในปริมาณมากเกินกว่า 60 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง กรุงเทพมหานครจะใช้ระยะเวลาในการระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้เร็วกว่าปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับปริมาณฝนที่เท่ากัน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมว่า เมื่อดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้วขอให้สามารถใช้งานได้ อย่าให้เกิดปัญหาเหมือนที่ผ่านมา เช่น เกิดกรณีไฟฟ้าที่จะใช้กับเครื่องสูบน้ำดับ ส่งผลให้มีน้ำท่วงขังท่วมสูงจนกระทบไปถึงเรื่องจราจร และขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือกัน เพราะไม่ใช่เรื่องที่แก้ไขได้ง่าย เช่นเดียวกับระบบขนส่งมวลชนที่ยังมีระยะทางไม่ยาวพอ ซึ่งรัฐบาลจะดำเนินการอย่างเต็มที่

พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาไปหลายอย่าง และได้รับฟังข้อเสนอแนะจากทุกช่องทาง รวมถึงข้อเสนอแนะในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร แต่ปัญหาที่บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สะท้อนมานั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำซาก และต้องพิจารณาว่ารัฐบาลได้แก้ไขอะไรไปบ้างแล้ว ไม่ใช่มากล่าวหาว่าไม่แก้ปัญหาอะไรเลย

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในแต่ละปีจะมีโครงการนับแสนโครงการ แต่รัฐบาลมีงบประมาณจำกัดเพียงปีละประมาณ 3 ล้านล้านบาท ซึ่งหากจะทำอะไรก็ต้องหางบประมาณไว้ก่อน และการดำเนินการก็ต้องคำนึงถึงพันธสัญญาที่มีต่อต่างประเทศด้วย

ขณะเดียวกันมีความเป็นห่วงประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดที่ไม่สามารถเก็บกักน้ำไว้ใช้ได้มาก เนื่องจากฝนที่ตกลงมาส่วนใหญ่อยู่นอกพื้นที่กักเก็บ จนส่งผลถึงน้ำที่จะมีไว้ใช้อุปโภคบริโภค ซึ่งจะต้องไปดูว่าจะทำอย่างไร และจะแก้ไขปัญหากันอย่างไร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ