นายกฯ หารือ WEF ผลกระทบสงครามการค้า พร้อมสานต่อความร่วมมือกับไทย-อาเซียน มุ่งสร้างเสถียรภาพเศรษฐกิจโลก

ข่าวทั่วไป Friday July 12, 2019 12:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังศาสตราจารย์ เคล้าส์ ชวาป (Professor Klaus Schwab) ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร World Economic Forum (WEF) เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า นายกรัฐมนตรีได้ขอให้ประธานบริหาร WEF เชื่อมั่นในรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ โดยยืนยันว่ารัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะสานต่อนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศที่มุ่งเน้นการสร้างเสถียรภาพ ความมั่นคง ตลอดจนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายหารือร่วมกันเกี่ยวกับเสถียรภาพด้านเศรษฐกิจโลกและผลกระทบจากสงครามการค้า โดยต่างมีเจตนามุ่งมั่นที่จะร่วมมือกันสร้างระบบเศรษฐกิจที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม สามารถตอบสนองความท้าทาย และมองผลประโยชน์ร่วมกันเป็นหลัก โดยประธานบริหาร WEF อยากเห็นภูมิภาคอาเซียนที่เข้มแข็ง และประสงค์ให้อาเซียนเพิ่มพูนความร่วมมือกับภูมิภาคอื่นๆ ด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางภูมิรัฐศาสตร์และเน้นการสร้างความเชื่อมโยงกับอนุภูมิภาคอื่นๆ ทั้ง ACMECS และ GMS พร้อมทั้งกล่าวถึงการเข้าร่วมประชุมผู้นำ G20 ในฐานะที่ไทยเป็นประธานอาเซียน ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ว่าไทยได้นำเสนอผลลัพธ์การประชุมสุดยอดอาเซียน 2 ฉบับ คือ ASEAN Leader’s Vision Statement on Partnership for Sustainability และ ASEAN Outlook on the Indo-Pacific เพื่อนำเสนอแนวทางความร่วมมือกับประเทศสมาชิก G20 ในการรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างทันท่วงที

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เห็นว่า อาเซียนควรเสริมสร้างระบบนิเวศทางดิจิทัล (Digital Ecosystem) ที่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อรองรับความท้าทายจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 และการพัฒนาเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ภาวะโลกร้อน และขยะทะเล ซึ่งได้ออกมาตรการในการแก้ไขแล้วและดำเนินการอย่างเคร่งครัด เพื่อประโยชน์ของประเทศไทย ของภูมิภาคและของโลก

ทั้งนี้ ประธานบริหาร WEF ชื่นชมรัฐบาลไทยในการพัฒนาอุตสาหกรรมยุค 4.0 และผลการจัดลำดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยเมื่อครั้งที่ผ่านมาประเทศไทยอยู่ในลำดับที่สูงขึ้น ซึ่ง WEF แสดงความพร้อมสนับสนุนนโยบายสำคัญของรัฐบาล อาทิ Thailand 4.0 เทคโนโลยีดิจิทัล อุตสาหกรรมการเกษตร สาธารณสุข และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ รวมทั้งต่อยอดผลลัพธ์การดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของไทยให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

นอกจากนี้ยังประสงค์ให้ภาคธุรกิจร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิดกับภาครัฐบาล เพื่อรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของโลก

ขณะเดียวกัน ประธานบริหาร WEF อวยพรให้รัฐบาลชุดใหม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความราบรื่น และประสบผลสำเร็จ พร้อมทั้งใช้โอกาสนี้เชิญนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุม WEF ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส ครั้งที่ 50 ในช่วงเดือนมกราคม 2563 ด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ