นายกฯ ห่วงฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุ"โพดุล" กำชับทุกหน่วยเร่งช่วยเหลือปชช.ที่ประสบอุทกภัย-ภัยแล้ง

ข่าวทั่วไป Wednesday August 28, 2019 14:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีความห่วงใยในสวัสดิภาพของประชาชน หลังกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนภัยฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก จากอิทธิพลของพายุ "โพดุล" ที่อาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทยระยะนี้ โดยขอให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดและปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการ พร้อมทั้งกำชับให้ทุกจังหวัดสำรวจสิ่งปลูกสร้าง เส้นทางระบายน้ำ และแจ้งข่าวแก่ประชาชนให้ทันท่วงทีเพื่อความปลอดภัย

โดยนายกรัฐมนตรีได้รับรายงานว่าฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ช่วยให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักและแหล่งน้ำต่าง ๆ เพิ่มขึ้น รวมถึงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ เช่น เขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนศรีนครินทร์ ฯลฯ ช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ลดจำนวนพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำจาก 48 จังหวัด เหลือ 18 จังหวัด

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามแก้ไขปัญหาพื้นที่บางจุดที่ยังมีปริมาณน้ำน้อย เช่น เขื่อนทับเสลา เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนกระเสียว และปรับแผนระบายน้ำกรณีฉุกเฉินให้สอดคล้องกับสถานการณ์เพื่อป้องกันน้ำล้นในอ่างทุกขนาด

ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักและน้ำหลากในพื้นที่ภาคเหนือ เช่น จังหวัดแพร่ แม่ฮ่องสอน และภาคอีสาน เตรียมความพร้อมเครื่องจักรกล และเตรียมเครื่องอุปโภคบริโภค

ขณะที่น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากมติ ครม.วานนี้ที่อนุมัติโครงการแก้ไขและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบภัยแล้งและอุทกภัย 74 จังหวัด รวมวงเงิน 15,800 ล้านบาท โดยมีกระทรวงมหาดไทยจะเป็นเจ้าภาพหลักและต้องทำงานบูรณาการกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมมาตรการและโครงการต่างๆ ให้มีความพร้อมที่จะดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว อาทิ โครงการสร้างอาชีพ การจ้างแรงงาน การซ่อมแซมปรับปรุงพัฒนาแหล่งน้ำ การขุดเจาะเป่าล้างบ่อบาดาล ระบบส่งน้ำและระบบประปา ทั้งนี้ห้ามนำงบประมาณไปซื้อครุภัณฑ์ จัดสัมมนา จ่ายค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าล่วงเวลา

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรเร่งปฏิบัติการเติมน้ำในเขื่อนช่วงท้ายก่อนสิ้นสุดฤดูฝน ช่วงชิงสภาพอากาศทำให้ฝนตกมากที่สุด โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เขื่อนขนาดใหญ่บริเวณตอนกลางของภาคมีน้ำน้อยจึงต้องเพิ่มปริมาตรน้ำ พร้อมกันนี้ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้กำชับให้กรมฝนหลวงฯ รีบรายงานเรื่องการขาดแคลนบุคลากร เครื่องมือ และอุปกรณ์ใดๆ ในการทำฝนหลวง สำหรับระยะเร่งด่วนนี้ได้ประสานกับเหล่าทัพเข้ามาบูรณาการ ซึ่งได้รับการสนับสนุนทั้งอากาศยาน นักบิน และกำลังพลเพื่อลำเลียงสารฝนหลวง ที่ผ่านมาทำให้สามารถบินปฏิบัติการได้บ่อยครั้งและทั่วถึงขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ