(เพิ่มเติม) นายกฯ เตรียมลงตรวจความเสียหายและเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมในจ.พิษณุโลกและสุโขทัยพรุ่งนี้

ข่าวทั่วไป Tuesday September 3, 2019 10:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีความเป็นห่วงสถานการณ์ภายหลังพายุโพดุลได้ถล่มในหลายจังหวัดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงเตรียมลงตรวจพื้นที่ รับฟังปัญหา และเยี่ยมประชาชนเพื่อจะได้ช่วยเหลือ บรรเทาความเสียหายและสร้างขวัญใจกำลังใจให้แก่ประชาชน

โดยวันพุธที่ 4 กันยายน ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีและคณะ เช่น รมว.มหาดไทย รมว.เกษตรและสหกรณ์ และรมว.คมนาคม จะเดินทางไปยังจังหวัดพิษณุโลก เพื่อประชุมติดตามสถานการณ์ และแนวทางการแก้ปัญหาที่ศาลากลาง จังหวัดพิษณุโลก หลังประชุมเสร็จสิ้น จะเดินทางไปตรวจสถานการณ์และเยี่ยมประชาชน ที่อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก

จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะ จะเดินทางไปยังจังหวัดสุโขทัย เพื่อตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบอุทกภัย ที่ประตูระบายน้ำบ้านหาด สะพานจันทร์ อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย และจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในช่วงเย็น

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าสำรวจความเสียหายของพื้นที่เกษตรทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ และประมง โดยให้ทำทันทีที่น้ำลด ทั้งนี้ หากผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเป็นเขตภัยพิบัติจะได้รับเงินช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 ซึ่งทางกรมส่งเสริมการเกษตรรายงานว่า เกษตรกรจะได้รับค่าชดเชยรายละไม่เกิน 30 ไร่ โดยนาข้าวได้ไร่ละ 1,113 บาท พืชไร่ได้ไร่ละ 1,148 บาท พืชสวนและพืชอื่นๆ ได้ไร่ละ 1,690 บาท

รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า จากอิทธิพลของพายุที่ทำให้ฝนตกหนักในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือจึงได้สั่งการให้นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน บริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำต่างๆ ให้สอดคล้องกับสภาวะฝนที่ตกในพื้นที่ทางตอนบน ที่เป็นห่วงขณะนี้คือ การระบายน้ำเหนือจากพื้นที่ตอนบนสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยอธิบดีกรมชลประทาน รายงานว่า ทยอยเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 2 กันยายน จากเดิมระบายอยู่ที่ 424 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที เป็น 480 ลบ.ม.ต่อวินาที พร้อมรับน้ำเข้าระบบชลประทานฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นจากเดิม 140 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็น 170 ลบ.ม.ต่อวินาที และฝั่งขวาจากเดิมรับน้ำจากเดิม 230 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็น 260 ลบ.ม.ต่อวินาที ทั้งนี้เพื่อเร่งระบายน้ำให้ไหลออกสู่ทะเลให้เร็วที่สุด

นอกจากนี้ได้กำชับว่า การเพิ่มปริมาตรการระบายต้องไม่ให้กระทบต่อพื้นที่ทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งนี้ผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตจังหวัดอ่างทอง และพระนครศรีอยุธยาจะต้องมีน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ 700 ลบ.ม.ต่อวินาทีขึ้นไป ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนก

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยจากพายุโพดุลเริ่มคลี่คลายลง จากเดิมที่มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบกว่า 20 จังหวัด โดยยังเหลือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบในภาคเหนือ 4 จังหวัด และภาคอีสานอีก 5 จังหวัด ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งระบายน้ำ เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด และต้องคำนึงถึงการเก็บน้ำไว้ใช้ประโยชน์ในฤดูแล้งด้วย

ส่วนพายุระลอกใหม่ที่กำลังเข้ามานั้น คงอยู่ในพื้นที่ที่ประสบภัยเดิม ซึ่งได้เตรียมการรับมือไว้แล้ว และในวันพรุ่งนี้ (4 ก.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะลงพื้นที่ไปเยี่ยมผู้ประสบภัยที่จังหวัดสุโขทัยและพิษณุโลก หากมีเวลาเพียงพอก็จะลงพื้นที่ภาคอีสานด้วย

รมว.มหาดไทย กล่าวว่า สถานการณ์อุทุกภัยที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจ เนื่องจากมีพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายกว่า 6 แสนไร่ ส่วนงบประมาณจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาภัยแล้งนั้น ก็สามารถปรับใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ได้

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า วันนี้รัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายให้ลงไปตรวจเยี่ยมประชาชนที่ประสบอุทกภัยคงจะรายงานสถานการณ์ให้ ครม.ได้รับทราบ

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า ในช่วงบ่ายจะหารือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ บมจ. ปตท. (PTT) เกี่ยวกับการจัดถุงยังชีพเพื่อไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ก่อนที่จะมีมาตรการช่วยเหลือฟื้นฟูหลังน้ำลด และตนจะลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยที่จังหวัดร้อยเอ็ดในวันเสาร์นี้ด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ