คกก.วัตถุอันตราย มีมติยกเลิกใช้ "พาราควอต-ไกลโฟเซต-คลอร์ไพริฟอส" ดีเดย์ 1 ธ.ค.62

ข่าวทั่วไป Tuesday October 22, 2019 16:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คณะกรรมการวัตถุอันตรายได้ลงมติแบบเปิดเผยในวันนี้ โดยให้ยกเลิกการใช้สารพาราควอต, ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ซึ่งเป็นสารเคมีอันตรายทางการเกษตร โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.62

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตร ไปดำเนินการยกร่างประกาศกระทรวงว่าด้วยบัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น แล้วเสนอคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นในการประชุมครั้งต่อไป และให้กรมวิชาการเกษตรไปพิจารณาระยะเวลา ความเหมาะสมในการบริหารจัดการวัตถุอันตรายที่ยังคงเหลืออยู่หลังจากประกาศมีผลบังคับใช้ โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้เกี่ยวข้อง เช่น เกษตรกร หรือร้านจำหน่าย เป็นต้น

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารสุข กล่าวภายหลังคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติยกเลิกการใช้ 3 สารเคมีทางการเกษตรว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งมติที่ออกมาถือว่าเป็นการชี้ขาดที่ชัดเจนมีทิศทางเดียวกัน โดยภายหลังมีมติยกเลิก 3 สารเคมีแล้ว จะอนุโลมให้ใช้ได้จนถึงวันที่ 1 ธค.นี้ เพราะยังมีสต็อกของเกษตรกรที่ยังต้องใช้

"หากหลังจากนี้ ยังมี 3 สารในครอบครองก็จะผิดกฎหมาย เพราะที่ผ่านมาได้ยืดเวลาให้ใช้ 3 สารเคมีไปแล้ว ซึ่งวันนี้ขออย่าทำสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์ หรือพยายามหาวิธีการให้ได้ใช้สารต่อไป เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง" นายอนุทินระบุ

พร้อมยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นภารกิจของรัฐมนตรีที่ดูแลด้านสาธารณสุข ที่ต้องรับผิดชอบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชน อีกทั้งเรื่องการยกเลิกสารเคมีอันตราย ไม่ได้อยู่ในนโยบายการหาเสียงของพรรค แต่ถือเป็นความภาคภูมิใจที่ได้ทำเรื่องนี้ และไม่ได้เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของใคร แต่เป็นการทำงานร่วมกันของรัฐบาล

ส่วนกรณีที่มีกลุ่มเกษตรบางส่วนคัดค้าน และเตรียมยื่นเรื่องต่อศาลปกครองเพื่อให้คุ้มครองชั่วคราวนั้น นายอนุทิน เห็นว่า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน สามารถทำได้ในระหว่างรอการยกเลิก ซึ่งการออกมาเคลื่อนไหวก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ทั้งนี้ส่วนตัวไม่มีแรงกดดันใด หากดำเนินการไม่สำเร็จ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสุขภาพของประชาชน แต่หากปล่อยไว้อาจส่งผลต่อบุตรหลาน อีกทั้งมองว่าสิ่งที่ได้มาไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่เสียไป

อย่างไรก็ตาม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่ได้มีการพูดคุยหรือหารือรองรับหลังการยกเลิกใช้ 3 สารเคมีนี้ เพราะถือเป็นเรื่องของแต่ละกระทรวงที่จะไปหาวิธีการเยียวยา และมีสารตัวใหม่มาทดแทน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ